นิทรา-สายัณห์ (2493)
นิทรา-สายัณห์ (2493/1950) พนัส หนุ่มนักเรียนนอก กำลังตามหาภรรยาที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จนกระทั่งหลงทางไปเจอกระท่อมร้างแห่งหนึ่ง เจ้าของกระท่อมเป็นชายร่างสูงหน้าตาเหี้ยมเกรียมออกมาต้อนรับ และเล่าความหลังให้พนัสฟังว่า ในอดีต คุณพระรัฐกิจ อาศัยอยู่กับ เอื้อมพร ลูกสาวสองคน วันหนึ่งมีชายชื่อ สายัณห์สุรวิษิฐ ท่าทางเลื่อนลอยเดินทางมาและบอกว่าอยากออกป่า คุณพระฯ จึงให้เขาพักอยู่ที่กระท่อมและตั้งชื่อว่า "กระท่อมสายัณห์" เอื้อมพรไม่เคยมีความรัก เมื่อได้มาอยู่ใกล้ชิดสายัณห์จึงตกหลุมรักอย่างง่ายดาย สายัณห์เล่าเรื่องราวในอดีตของตัวเองให้เอื้อมพรฟัง เขาเคยมีคนรักชื่อ นิทรา สมัยเรียนด้วยกันที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์ เคยสัญญากันไว้ว่าจะแต่งงานกันเมื่อจบการศึกษา แต่เมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ นิทรากลับไปแต่งงานกับพนัสตามที่ผู้ใหญ่จัดการ นิทราให้สัญญากับสายัณห์ว่าจะมาพบสายัณห์ในวันที่ 31 มกราคมอีกสามปีข้างหน้า เหตุนี้เองสายัณห์จึงหนีมาอยู่ต่างจังหวัดเพื่อเยียวยาจิตใจ สายัณห์เริ่มมีใจให้เอื้อมพร แต่อยู่มาวันหนึ่งมีโทรเลขมาจากนิทรา สายัณห์จึงรีบไปกรุงเทพ ก่อนจะกลับมาที่บ้านคุณพระฯ อีกครั้งพร้อมนิทรา เอื้อมพรเสียใจมาก สายัณห์เองก็เสียใจไม่แพ้กันที่ทำร้ายความรู้สึกของเอื้อมพร นิทราเริ่มระแคะระคายพฤติกรรมของทั้งสอง ก็รู้สึกเสียใจที่ตัวเองเป็นต้นเหตุทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่สามารถตัดใจจากครอบครัวของตัวเองได้ ในวันที่สายัณห์ไปทำธุระในเมือง นิทราจึงจบปัญหารักด้วยการฆ่าตัวตาย สายัณห์มาพบเข้าขาดใจตายตามนิทราไป เอื้อมพรถือสันโดษนับจากนั้นเป็นต้นมา กว่าพนัสจะรู้สาเหตุที่ภรรยาหายตัวไปเวลาก็ผ่านไปแล้ว 20 ปี
Placeholder
อ้ายย่ามแดง (2493)

อ้ายย่ามแดง (2493/1950) ภาพยนตร์ไทยแนวแปลก จากชีวิตจริง ที่ลือกันทุกมุมเมือง รัก คติ ตื่นเต้น น่าดู หวาดเสียว

ตะรุเตา (2493)
ตะรุเตา (2493/1950) พร กับ ทัน สองหนุ่มลูกประมงชาวตะรุเตาเป็นเพื่อนรักกัน ทั้งสองหลงรัก บุหงา สาวชาวเกาะ จึงแข่งกันงมไข่มุก โดยมีเงื่อนไขว่าใครชนะจะได้บุหงาไปครอง พรเป็นฝ่ายลงไปงมก่อนและหยิบได้หอยมุกตัวเขื่อง แต่ระหว่างที่จะขึ้นสู่ผิวน้ำ เท้าของพรถูกหอยยักษ์งับ กว่าทันกับบุหงาจะรู้ก็เกือบสายเกินไป ทันเห็นท่าทีที่บุหงาแสดงความเป็นห่วงพร ก็พอจะรู้จิตใจของบุหงา จึงเป็นฝ่ายเสียสละตัดใจจากบุหงาและหนีไปจากเกาะตะรุเตา สงครามโลกครั้งที่ 2 ปะทุขึ้น เข้าสู่ภาวะข้าวยากหมากแพง พรกับบุหงาประทังชีวิตด้วยการนำน้ำจืดไปแลกข้าวสารที่เรือลำหนึ่ง แต่ปรากฏว่าทั้งสองขึ้นเรือผิดกลายเป็นเรือของประสิทธิ์ซึ่งซื้อข้าวสารจากภูเก็ตไปขายปีนัง พรถูกพวกของประสิทธิ์ทำร้ายจนสลบ ส่วนบุหงาถูกฉุดไปเป็นนางนกต่อ จนกระทั่งเรือมาถึงภูเก็ต บุหงาได้พบทันอีกครั้ง ซึ่งบัดนี้ทันได้กลายเป็นตำรวจ บุหงาจึงอาสาส่งข่าวความเคลื่อนไหวของประสิทธิ์ ส่วนพรไปรวมกับ สลัดเชี่ยว ปล้นเรือของประสิทธิ์ พรขอร้องเชี่ยวให้นำข้าวที่ขโมยมาได้ไปแจกจ่ายแก่ชาวเกาะตะรุเตา แต่เชี่ยวไม่ยอม พรจึงแทงเชี่ยวตายเพื่อเอาข้าวไปแจกชาวเกาะตะรุเตา ทันพยายามเกลี้ยกล่อมให้พรมอบตัวโดยสัญญาว่าจะช่วยพรให้พ้นผิดแต่บุหงาไม่เชื่อ ยอมสละชีวิตเพื่อให้พรได้หนีไป
เพลิงอาฆาต (2493)
เพลิงอาฆาต (2493/1950) ชาญและสมัครเปนเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ตราบจนกระทั่งโต เขาทั้งสองก็ยังคบหากัน เปนที่สนิทสนม ศึกษาวิชามาในแขนงเดียวกันและในที่สุดก็มีความเห็นตรงกันในเรื่องของการปลุกเสกชีวิตมนุษย์ที่สิ้นแล้วดังกล่าวเบื้องต้น ซ้ำร้ายกว่านั้น ทั้งชาญและสมัครต่างรักในหญิงคนเดียวกัน เธอคือวัลลภา ธิดาสาวของพระสมบูรณ์ธนทรัพย์ คหบดีผู้มั่งคั่ง วันหนึ่ง สรศักดิ์ได้รับจดหมายประหลาดขอเชิญให้ไปพบที่ ก.ม. ที่ 1 ทางสายกรุงเทพนครปฐม เพื่อ จะคลี่คลายปัญหาที่น่าหนักใจให้แก่นายแพทย์สรศักดิ์ กำหนดเวลา 24 น. และขอร้องให้ไปแต่ผู้เดียว ในคืนนั้น นายแพทย์สรศักดิ์ไปตามนัด เมื่อถึงสถานที่นัดหมายก็รู้สึกว่าถูกบังคับให้ไป ณ สถานที่แห่งหนึ่งโดยไม่รู้สึกตัว พบตัวเองภายในห้องหนึ่งซึ่งไม่มีผู้คนเลย แต่ได้ยินเสียง พูดแต่ไม่เห็นตัวผู้พูด และในที่สุด นายแพทย์สรศักดิ์ก็ได้ ทราบว่าพระสมบูรณ์ที่ได้ฟื้นขึ้นมาใหม่นั้นมิใช่พระสมบูรณ์ที่แท้จริง เป็นอาชญากรตัวฉกาจที่สร้างความอลเวงให้เกิดด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ทันสมัย ต่อจากนั้น สงครามวิทยาศาสตร์ระหว่างสองพรรคก็ได้บังเกิดขึ้น (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน พิมพ์ไทย 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493)
นางตานี (2493)
นางตานี (2493/1950) ชื่อ "นางตานี" คงจะบอกท่านว่า เนื้อเรื่องเปนอย่างไร และแนวทางผิดแผกกว่าภาพยนตร์ไทยทุกเรื่องที่ผ่านมาแล้วเพียงไหน? (ที่มา: นิตยสารภาพยนตร์สาร ตุลาคม พ.ศ. 2493)
ทุ่งทมิฬ (2493)

ทุ่งทมิฬ (2493/1950) เป็นเรื่องชีวิตที่เปนไปได้ของลูกชาวทุ่ง เปนเรื่องของชายใจพระซึ่งถูกเหตุการณ์และเพื่อนฝูงบีบรัดข่มเหงให้เปนโจร แต่เมื่อกลายเปนโจรแล้วก็เปนโจรที่เต็มไปด้วยความเมตตาจิตต์และต้องเผชิญกับบรรดาศัตรูด้วยเล่ห์เหลี่ยมไหวพริบอย่างคมคายตลอดทั้งเรื่อง (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน พิมพ์ไทย 6 สิงหาคม พ.ศ. 2493)

Placeholder
ชายสะไบ (2493)

ชายสะไบ (2493/1950) เรื่องของลูกทุ่งและการล้างทุ่งเพื่อแก้แค้นกัน ด้วยหมัดต่อหมัด ดาบต่อดาบ สุรสิทธิ์เป็นเจ้าหนุ่มเลือดไพร่ ผู้เผยอพิศมัยในลูกสาวของนายทุน จนกระทั่งพบกับความทารุณกลั่นแกล้งอย่างเจ็บแสบจากทัต เอกทัต หัวแก้วหัวแหวนของนายทุน ผู้ซึ่งปองสาวงามนั้นอยู่เหมือนกัน พรรณี สำเร็จประสงค์ แม่สาวผู้นี้ เปนตัวการที่ความงามของหล่อนสร้างความเกลียดให้เกิดแก่ชีวิตของคนหลายคนเชื่อมโยงกันไป ดีที่สุดที่สุรสิทธิ์แสดงได้ ก็คือบทบาทเมื่อเขารู้ตัวว่าเมียของเขากำลังจะมีลูกถึงกับตื่นเต้นโลดถลาจะไปตามหมอตำแยทั้งที่เมียเพิ่งตั้งไข่ได้ 1 เดือน ดีที่สุดของทัต เอกทัต ก็คือบททารุณทั้งอย่างเลือดร้อนและเลือดเย็นของเขา ดีที่สุดในบรรดาตัวประกอบ ก็คือ ม.ล. เตาะ โกมารชุน ซึ่งแสดงบทบาทเป็นแม่เฒ่า ของสุรสิทธิ์ได้อย่างมีชีวิตชีวา และดีที่สุดในกะบวนจี้เส้นด้วยหน้าตายและหนวดจิ๋มคือจำรูญ หนวดจิ๋ม (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน สยามนิกร 11 กันยายน พ.ศ. 2493)

ต้นรักดอกโศก (2493)
ต้นรักดอกโศก (2493/1950) ณรงค์ และ วิชัย สองเพื่อนรักเดินทางมาหางานที่จังหวัดเชียงใหม่ บังเอิญเห็น สง่า ถูกกระชากกระเป๋าจึงไปช่วยเหลือ พร้อมนำกระเป๋ามาคืนสง่าที่บ้าน พอสง่ารู้ว่าทั้งสองกำลังหางาน จึงแนะนำให้ณรงค์มาเป็นผู้ช่วยสมุห์บัญชี ส่วนวิชัยได้งานที่ลำปาง ทั้งสองจึงแยกจากกัน ณรงค์สนิทกับครอบครัวของสง่านับแต่นั้นมาสง่ามีลูกสาวสวยคนหนึ่งชื่อ สุรีย์ วันเวลาทำให้ทั้งสองรักกัน ต่อมาสง่าเสียชีวิต ณรงค์ได้เลื่อนขั้นเป็นสมุห์บัญชีแทนสง่าเพราะความซื่อสัตย์ขยันหมั่นเพียร และได้แต่งงานกับสุรีย์ในเวลาต่อมา ชอบ เพื่อนร่วมงานซึ่งเคยมาสู่ขอสุรีย์เกิดริษยาและแอบวางแผนร้ายอย่างเงียบๆ ไม่นานจึงเริ่มดำเนินตามแผนที่ตนวางไว้ โดยการว่าจ้าง เรณู มายั่วยวนณรงค์ ณรงค์หลงเสน่ห์เรณูอย่างถอนตัวไม่ขึ้น กลายเป็นคนสำมะเลเทเมา ทิ้งลูกเมีย ละเลยหน้าที่การงานจนถูกพักงาน เรณูทวงเงินค่าจ้างหลังจากปฏิบัติแผนการสำเร็จ แต่ชอบบิดพลิ้วแถมตบหน้าเรณู เรณูฮึดสู้หยิบมีดแทงลงกลางหลังชอบจนเสียชีวิตและหนีไป ณรงค์ถูกจับแล้วยังรับสารภาพผิดแทนเรณูทำให้สุรีย์ต้องตกระกำลำบากหาเลี้ยงลูกด้วยการทำขนมจนถึงวันพิจารณาคดีเรณูมาปรากฏตัวที่ศาลและสารภาพว่าเป็นคนฆ่าชอบ ณรงค์จึงพ้นผิดและได้รับอิสรภาพ เป็นเวลาเดียวกับที่วิชัยบึ่งรถด้วยความเร็วเพื่อให้มาทันฟังคำตัดสิน จึงชนณรงค์ซึ่งกำลังเดินเหม่อลอยจนเสียชีวิต โดยไม่มีโอกาสเอ่ยคำขอโทษสุรีย์
Placeholder
ศาสนารักของนางโจร (2493)
Placeholder
สะใภ้ทาส (2493)
สะใภ้ทาส (2493/1950) หลังจากภรรยาเสียชีวิต พระชำนาญยุทธกิจ ได้แต่งงานใหม่กับ ละเมียด ซึ่งหวังเพียงทรัพย์สมบัติของพระชำนาญ ละเมียดพยายามยัดเยียด เชิด ลูกชายของพระชำนาญ ให้แต่งงานกับ ลัดดา หลานสาวของตน แต่ลัดดามีคนรักอยู่แล้วชื่อ จิตต์ ส่วนเชิดลอบมีความสัมพันธ์กับ เนียน สาวใช้ในบ้าน แต่ลัดดาก็หาละความพยายามไม่ เมื่อสบโอกาสที่เชิดเดินทางไปช่วยคุมกิจการป่าไม้ของพระชำนาญ ที่จังหวัดนครสวรรค์ ละเมียดก็หลอกพาเนียนไปขายที่ซ่องโสเภณี และใส่ร้ายเนียนว่าหนีตามผู้ชายไประหว่างที่เชิดไม่อยู่ที่บ้าน เชิดติดกับละเมียดหลงเชื่อเสียสนิท ด้วยความเสียใจระคนโกรธแค้นจึงหันหน้าเข้าหาสุรา เนียนดิ้นรนขัดขืนจึงถูกเจ้าของซ่องทำร้ายไม่เว้นแต่ละวัน โชคดีที่มี ส่งศรี คอยช่วยเหลือ แต่แล้ว เนียนก็แทบขาดใจเมื่อเห็นข่าวงานแต่งงานของเชิดกับลัดดาเนียนจึงก้มหน้ายอมรับชะตากรรมเลี้ยงดูลูกน้อยซึ่งเป็นหน่อเนื้อของเชิด แต่นับวัน เชิดก็ยิ่งดื่มสุราหนักขึ้นและไม่มีทีท่าจะยอมแต่งงานกับลัดดา ละเมียดจึงจัดแจงให้ลัดดาเข้ามาอยู่ในบ้าน เพื่อหาโอกาสให้เชิดและลัดดาได้อยู่ใกล้ชิดกัน ลัดดายังไม่ยอมตัดขาดจากจิตต์ แถมยังลักลอบเจอกันบ่อยครั้งจนเชิดมาเห็นเข้า จึงเกิดการวิวาทกัน ละเมียดเข้ามาห้ามถูกลูกหลงโดนกระสุนปืนที่จิตต์ยิงเสียชีวิตเมื่อเหตุการณ์สงบลง เชิดจึงออกตามหาเนียนเพื่อปรับความเข้าใจกัน
เสือไทยอาละวาด (2493)
เสือไทยอาละวาด (สุภาพบุรุษเสือไทยภาคสมบูรณ์) (2493/1950) เริ่มตั้งแต่สุภาพบุรุษเสือไทยของเรา พร้อมด้วยอ้ายแม่น และ อีกรอง หนีตำรวจกองปราบซึ่ง อ้ายเดชเพื่อนเกลอร่วมตายเป็นผู้นำมาล่า อ้ายคง ตรงไปยังวัดร้างท้ายเมือง และได้แต่งงานอ้ายแม่นกับอีกรองต่อหน้าองค์พระประธาน และวิ่งเตลิดเข้าป่าเยี่ยงเสือลำบากนั้น การก็ปรากฏว่า อีกรองหาได้ทำตามคำสั่งของ เสือไทยแต่ประการใด อีกรองยึดสัจจะตนเองมั่นอยู่ว่า "รักแท้ของมันอยู่ที่เสือไทย" หาใช่อ้ายแม่น ถึงเสือไทย จะปล้นเขากิน ชิงเขากิน มันก็ต้องปล้นเขากินชิงเขากินไปด้วย ดังนั้น ด้วยระยะเวลาไล่ๆ กัน อีกรอง โจนหนี จากอ้ายแม่นตามเสือไทยไปติดๆ และไปทันกันที่กระท่อมร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งภายในกระท่อมมี เสือไทย ซึ่งถูกจองจำครบ ผู้ใหญ่ยิ่ง และผู้ใหญ่แคล้ว ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองตกลงเป็นเอกฉันท์ว่า จะตัดหัวเสือไทยไป เพราะว่าตายหรือเป็น สินบนมันก็ ๕๐๐๐ เท่ากัน อีกรอง กลับเป็นแม่เสืออีกครั้งหนึ่ง ด้วยการเดินลูกไม้แบบรุกเงียบ ลูกไม้ของอีกรอง ทำให้เสือไทยรอดชีวิตได้แทบไม่น่าเชื่อ (ลูกไม้อีกรองเด็ดขาดอย่างไร? เชิญไปชมเอาเอง) และในขณะที่ อีกรองจะนำเสือไทยหนีต่อไปนั้น คนทั้งสองก็ได้ประจันหน้ากับเสือนรกแห่งเมืองสวรรค์ ซึ่งหนีหลวงกล้ากลางสมรมาจากเพ็ชรบุรี เสือนรกแห่งเมืองสวรรค์ จะทำความเข้าใจกับ เสือไทยได้อย่างไร? นี่เป็นปัญหาหนึ่งละ แต่อย่างไรก็ตามใน "แกงค์" ของเสือนรกอีกรองได้เผชิญกับคู่ปรับตัวสำคัญนั่นคือ "อีโฉม" ซึ่งมีความเก่งกล้าปานเสือ และไม่เคยกลัวมนุษย์ตนใดมิหนำซ้ำยังฉมังพกมีดคู่เสียด้วย อีกรองเป็นคนที่ไม่ยอมมนุษย์อยู่แล้ว และเมื่อ ได้พบกับอีโฉม ซึ่งไม่ยอมมนุษย์เช่นเดียวกัน ลำหักลำโค่น ก็เกิดขึ้นแต่จะถึงพริกถึงขิงเพียงไรนั้น เชิญไปชมเอาเอง ขอกระซิบเสียหน่อยว่า สนุกกว่าที่เล่ามานี้ตั้งร้อยเท่า.... (ที่มา: ใบปิดภาพยนตร์เรื่อง เสือไทยอาละวาด)
Placeholder