เพียงดวงใจ (2494)
เพียงดวงใจ (2494/1951) เพราะไม่อาจขัดใจมารดา มาโนชลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ คุณนายสายหยุด จึงจำยอมหมั้นหมายกับ อรชร ผู้มากมีด้วยเงินทอง ทั้งที่ตัวเองแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ บุปผา จนถึงขั้นทำเธอท้อง แต่คุณนายสายหยุดก็ปฏิเสธ ไม่ยอมรับลูกสะใภ้ชาวบ้านซ้ำร้ายยังร่วมมือกับอรชรพากันไปประณามบุปผาถึงที่บ้าน ด้วยความรักและปรารถนาดีต่อมาโนช บุปผาจึงยอมเป็นฝ่ายจากไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความรักของมาโนชที่มีต่อบุปผาลดลง กลับทำให้เขายิ่งทวีความรักความคิดถึง ออกตามหาบุปผาไม่เว้นแต่ละวัน และไม่แยแสอรชรซึ่งบัดนี้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอรชรได้แต่ขมขื่นเจ็บใจจึงประชดมาโนชด้วยการเที่ยวเตร่กับผู้ชายมากหน้าหลายตา กระทั่งได้รู้จักกับ เทพ โดยหารู้ไม่ว่าเทพเป็นมิจฉาชีพที่หวังจะปอกลอกอรชร ฝ่ายบุปผา หลังจากคลอดลูกสาวก็เร่ขายขนมเพื่อหาเลี้ยงชีพ เมื่อโหมทำงานหนักจึงล้มป่วยเป็นวัณโรคบุปผาได้แต่ชอกช้ำต่อโชคชะตาจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายเคราะห์ดีที่หมอคนหนึ่งช่วยบุปผาไว้ทันและพามารักษาที่บ้านจนเธอหายดี บัดนี้ อรชรได้ถูกเทพผลาญทรัพย์สมบัติหมดสิ้น ต้องขายตัวเพื่อหาเงินประทังชีวิตจนเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา อรชรจึงมาขอร้องหมอที่ชุบเลี้ยงบุปผาให้ทำแท้งให้แต่หมอไม่ยอม บุปผาซึ่งแอบฟังเรื่องราวทั้งหมดเกิดความสงสาร จึงร้องขอความช่วยเหลือจากหมออีกทาง จนหมอใจอ่อน ทั้งสองรีบออกตามหาอรชรแต่ก็สายเกินไป อรชรได้ทิ้งร่างดำดิ่งลงในคลองให้สายน้ำพัดผ่านเสียแล้ว เผอิญมาโนชผ่านมาแถวนั้นจึงได้เจอบุปผาอีกครั้ง ทั้งสองต่างโผเข้าหากัน หมอได้เห็นความรักของบุปผาที่มีต่อมาโนชก็ยอมเสียสละให้บุปผาได้ครองรักกับชายที่เธอรักยิ่ง
อาหรับเที่ยงคืน (2494)
เจ้าแม่ลานเท (2494/1951) ตำนานของความรัก การรอคอยของหญิงสาวแห่งลานเท อันเป็นตำนานอิงประวัติศาสตร์ทางโบราณคดีที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดอยุธยา (ที่มา: นิตยสารภาพยนตร์สาร มกราคม พ.ศ. 2495)
เมื่อนเรศวรกู้ชาติ (2494)
เมื่อนเรศวรกู้ชาติ (2494/1951) เกร็ดพงศาวดารไทย ตอนอพยพครัวไทยและมอญสวามิภักดิ์จากหงษาวดี สู่เมืองแครง (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน พิมพ์ไทย 1 มกราคม พ.ศ. 2495)
วิมานทราย (2494)
วิมานทราย (2494/1951) ชีวิตคือความฝัน วิมานใครๆ ก็สร้างได้ แต่ 99 ใน 100 เปนวิมานทราย (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน พิมพ์ไทย 14 มีนาคม พ.ศ. 2495)
ตลุยล้างแค้น (2494/1951) โปรย ลูกสาวของกำนันเปรื่องแห่งทุ่งสามเรือน คบหาดูใจอยู่กับ ทวน ไอ้หนุ่มลูกทุ่ง แต่แล้วความรักของทั้งสองก็ต้องพบกับอุปสรรค เมื่อ เพชร ลูกชายของผู้ใหญ่พลอยแห่งบ้านหนองแก้วหมู่บ้านข้างเคียงเกิดมาหลงรักโปรย แต่โปรยไม่เคยเหลียวแลสร้างความอับอายแก่เพชรยิ่งหนัก จึงประกาศตัวเป็นอริกับทวนศัตรูของหัวใจ เพชรเจ็บใจที่โปรยไม่ใยดีตนจนเกิดความเคียดแค้นปนความริษยา วางแผนเผาบ้านทวนทำให้แม่ของทวนต้องเสียชีวิตท่ามกลางเปลวเพลิง เพชรคึกคะนองออกปล้นชาวบ้านแล้วป้ายความผิดให้ทวนหนำซ้ำยังเป่าหูกำนันเปรื่องกับผู้ใหญ่พลอยให้ตามจับทวน ทับทิม น้องสาวของทวนรีบมาแจ้งข่าวและขอร้องให้ทวนไปซ่อนตัวที่ชายป่าจนกว่าเรื่องจะเงียบ เพชรเกิดความลำพอง คะยั้นคะยอให้ผู้ใหญ่พลอยมาสู่ขอโปรยในระหว่างที่ทวนหายตัวไป โดยมีกำนันเปรื่องเห็นดีด้วย แต่ไม่ทันที่เพชรจะได้แต่งงานกับโปรย ทวนกับพรรคพวกก็ออกจากป่ามาถล่มบ้านหนองแก้วจนสมแค้น เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่รอดชีวิตแน่ เพชรจึงสารภาพความผิดจนหมดสิ้นและขอขมาต่อทวน ความสงบสุขจึงกลับมายังทุ่งสามเรือน
Placeholder
สีชัง (2494)
สีชัง (2494/1951) แดนลูกน้ำเค็มอาละวาด ใช้หมัดเป็นกฎหมาย ทั้งมีด ทั้งปืน ทั้งสุรา นารี (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน พิมพ์ไทย 4 ธันวาคม พ.ศ. 2494)
แม่เสือสาว (2494)
แม่เสือสาว (2494/1951) แม่เสือสาว เป็นภาพยนตร์สีธรรมชาติ 16 มม.ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2494 สร้างโดย กรุงไทยภาพยนตร์ โดยมี ประสิทธิ์ ทรัพย์สุนทร เป็นผู้กำกับการแสดง-ถ่ายภาพ ธุรกิจกองถ่ายโดย ประสิทธิ์ ทรัพย์สุนทร, สวาท รัตนสาสน์, อำพัน ศิระสงเคราะห์, จำนงค์ บุญเหลือ ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากบทประพันธ์ของ อรวรรณ (เลียว ศรีเสวก)
Placeholder
Placeholder
บ้านสวนดาล (2494/1951) ภาพยนตร์ไทยนิยายชีวิตระคนคิดเศร้า ดุเดือด (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน พิมพ์ไทย 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494)
ตุ๊กตาจ๋า (2494)
ตุ๊กตาจ๋า (2494/1951) เฉลิม ชลกุล ญาติสนิทปฏิเสธการช่วยเหลือเรื่องเงินทอง อุดม ชายโฉดจึงลักพาตัวตุ๊กตา ลูกสาวของเฉลิมไป แต่อุดมไม่อยากมีภาระ จึงเอาตุ๊กตาไปฝากไว้กับ ละม้าย ญาติซึ่งไม่ชอบขี้หน้าเฉลิม โดยเสนอว่าจะส่งเงินให้ ละม้ายปฏิเสธการช่วยเหลือจึงถูกอุดมฆ่าปิดปาก โจ้ กับ ธร ซึ่งนั่งเลื่อยไม้อยู่แถวนั้น ได้ยินเสียงปืนดังลั่นก็รีบวิ่งไปดูที่มาของเสียง พบศพของละม้ายนอนตายอยู่กลางทาง และมีตุ๊กตานั่งอยู่ข้างๆ ศพโจ้กับธรจึงเก็บตุ๊กตามาเลี้ยงเพราะความสงสาร ด้วยความยากมีเงินทอง โจ้กับธรจึงต้องอาศัยการลักเล็กขโมยน้อยประทังชีวิต 10 ปีผ่านไป ตุ๊กตาเริ่มโตพอจะอ่านออกเขียนได้ ธรก็ใช้ความรู้เท่าที่มีสอนหนังสือให้ตุ๊กตา แล้วโชคชะตาก็พาให้ตุ๊กตาได้พบกับแม่ที่แท้จริง เมื่อธรเกิดไปถูกใจสาวสวยคนหนึ่ง แต่ถูกสาวเจ้าสาดน้ำใส่ อารามเสียหน้าจึงตั้งใจจะไปขโมยของในบ้านของสาวเจ้าเป็นการแก้เผ็ด แต่เมื่อเข้าไปในบ้าน ธรกลับได้เห็นรูปภาพของเด็กหญิงตุ๊กตาใส่กรอบรูปไว้เป็นอย่างดี จึงได้รู้ว่าตุ๊กตาเป็นลูกสาวของบ้านนั้นที่หายตัวไปพร้อม ๆ กับที่รู้ว่าสาวที่ตนแอบชอบนั้นตาบอด เป็นพี่สาวของตุ๊กตา ชื่อว่า ไพริน เมื่อธรแน่ใจจึงเล่าความจริงให้โจ้ฟัง และชวนกันไปทำความรู้จักกับครอบครัวของไพรินในวันต่อมามณี แม่ของไพรินได้เห็นตุ๊กตาก็ถึงกับตะลึงงัน จึงต้อนรับขับสู้แขกแปลกหน้าทั้งสามอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจ แต่แล้ววันหนึ่ง อุดมก็มาปรากฏตัวที่บ้านของธรเพื่อข่มขู่จะเอาตัวตุ๊กตา แล้วไปเรียกค่าไถ่จากมณี ธรกับโจ้ปรึกษากันเห็นว่าไม่มีทางออกอื่นนอกจากต้องคืนตุ๊กตาให้ครอบครัวที่แท้จริงเพื่อความปลอดภัยของเด็กน้อย แม้ทั้งสองจะรักตุ๊กตาประดุจลูกในไส้ก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่อุดมนัดหมายจะมารับตุ๊กตา ธรเอาตัวเข้าสู้และยิงอุดมเสียชีวิต แม้ตัวเองจะต้องตายไปด้วยก็ตาม
ม่วยสิ่น (2494)
ม่วยสิ่น (2494/1951) เป็นเรื่องรักของหนุ่มไทยกับสาวจีน (ที่มา: หนังสือพิมพ์รายวัน พิมพ์ไทย 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494)
วิญญาณรักของนางนาค (2494/1951) ในวันสงกรานต์ ณ ตำบลพระโขนง ระหว่างที่หนุ่มสาวกำลังร่วมในงานรื่นเริง แต่ที่มุมหนึ่ง มาก และ นาค สาวงามแห่งทุ่งพระโขนงกำลังพลอดรักกันอยู่ที่กองฟาง สร้างความริษยาแก่ แม่เฮียง ซึ่งแอบหลงรักมากอยู่ฝ่ายเดียว กำนัน ลุงของมาก เพื่อนกินเหล้าของ เถ้าแก่เฮง กลับทาบทามแม่เฮียง ลูกสาวของเถ้าแก่เฮงมาเป็นสะใภ้ ซึ่งเถ้าแก่เฮงก็เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะมากเป็นชายหนุ่มที่ตั้งใจทำมาหากิน นัดหมายเป็นมั่นเหมาะว่าจะให้หนุ่มสาวแต่งงานกันในเดือน 9 โดยมีข้อแม้คือให้กำนันช่วยเป็นพ่อสื่อจัดแจงให้ตนได้สมรักกับนาค มากปฏิเสธการแต่งงานอย่างหัวเด็ดตีนขาด แม้กำนันจะขู่ตัดออกจากกองมรดกก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเขาได้ มากหัวเสียกลับมาที่งานรื่นเริง เห็นเถ้าแก่เฮงรำเล่นอยู่กับนาคก็ยิ่งฉุนเฉียวหนัก โชคดีที่นาคตามมาปรับความเข้าใจและตกลงปลงใจอยู่ด้วยกันนับจากวันนั้นโดยมี ป้าแช่ม เมียของกำนันแอบให้ความช่วยเหลือเถ้าแก่เฮงยังไม่ละความพยายามจะเอานาคเป็นเมีย ร่วมมือกับกำนันส่งมากไปเป็นทหารเกณฑ์ ทั้งที่นาคกำลังตั้งครรภ์อยู่ กลางดึกคืนหนึ่งนาคเจ็บท้องอย่างหนัก พยายามออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน แต่ขาดใจตายกลางคัน เช้าวันรุ่งขึ้น เช้าบ้านช่วยกันนำศพนาคไปฝังไว้ที่ใต้ต้นตะเคียนคู่ ในป่าช้าวัดมหาบุศย์ แต่หลังจากนั้นวิญญาณของนาคก็ออกอาละวาดชาวบ้านละแวกนั้น แม้จะมีหมอผีอาสามาปราบก็ไม่สำเร็จ วันหนึ่ง มากขอลากลับมาเยี่ยมลูกเมียที่ทุ่งพระโขนง และต้องดีใจที่เห็นลูกเมียยืนคอยที่ริมตลิ่ง โดยไม่รู้เลยว่านั่นเป็นเพียงวิญญาณรักของนางนาค
ชั่วโมงมรณะ (2494)
ชั่วโมงมรณะ (2494/1951) เพราะความทะเยอทะยานของ เชษฐชายหนุ่มวัย 27 ปี ผลักดันให้เขาเข้าไปพัวพันกับอิทธิพลเถื่อนโดยไม่รู้ตัว เมื่อ ทองพูน แนะนำให้เชษฐไปทำงานกับ ประสิทธิ์ คหบดีผู้มั่งคั่ง ซึ่งเบื้องหน้าเปิดร้านขายเครื่องสำอาง และมี โสภา เป็นผู้จัดการร้าน แท้จริงแล้ว ภายใต้ใบหน้าอันสวยงามของโสภา มีไว้เพื่อคอยล้วงความลับจาก ร.ต.อ. ฉัตร์ ซึ่งมาติดพันเธอ ทำให้ธุรกิจผิดกฎหมายของประสิทธิ์ดำเนินไปด้วยความปลอดภัย วันหนึ่ง ประสิทธิ์ใช้ให้เชษฐขับรถพาไปส่งที่บ้านของ ร.ต.อ. ฉัตร์ เพื่อเลียบเคียงถามถึงการสืบจับซ่องค้าธนบัตรปลอม ที่นั่น เชษฐได้พบกับ สุรางค์ น้องสาวของ ร.ต.อ. ฉัตร์ ซึ่งออกมาต้อนรับทั้งสองเป็นอย่างดี หลังจากวันนั้น เชษฐเริ่มรู้สึกระแคะระคายพฤติกรรมอันแปลกประหลาดของประสิทธิ์และโสภา ได้แต่เก็บงำความสงสัยไว้เงียบๆ จนกระทั่ง เชษฐแอบเห็นประสิทธิ์จับคนมาเรียกค่าไถ่ จึงได้รู้ว่าตนเองเดินทางผิดเสียแล้วเชษฐต้องจำใจทำงานต่อภายใต้คำขู่ฆ่าของประสิทธิ์โสภาเริ่มเห็นใจและแอบรักเชษฐอยู่ลึกๆ ในใจ และแล้วเคราะห์ร้ายก็มาเยือน เมื่อสมุนของประสิทธิ์เกิดพลั้งมือฆ่าเจ้าทรัพย์รายหนึ่ง ในขณะหลบหนี เชษฐยอมมอบตัวเพื่อให้โสภาหนีได้ทัน ประสิทธิ์ร้อนตัวกลัวว่าเชษฐจะเผยความลับจึงวางแผนฆ่าปิดปากแต่เชษฐหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิดแล้วมาขอความช่วยเหลือจากสุรางค์ เชษฐมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่บางแสน สมุนของประสิทธิ์ซึ่งสะกดรอยตามเชษฐจับตัวสุรางค์เป็นตัวประกัน เชษฐจึงเร่งเดินทางกลับกรุงเทพแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าความตายรออยู่ข้างหน้า