เขาชนไก่ (
2549/2006) ปู่ทักว่าสุดโหด พ่อแย้งว่าสนุก พี่กลับมาระบม และผมจะเชื่อใครดี หลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับ “เขาชนไก่” ปราการด่านสุดท้ายของเหล่านักศึกษาวิชาทหาร (รด.) ชั้นปีสุดท้าย ที่ถูกเล่าขานบอกต่อกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ที่พวกเขาต้องฟันฝ่าไปให้ได้ และถ้าอยากทดสอบมิตรภาพคำว่า “เพื่อนตาย” คงไม่มีที่ไหนเหมาะเท่ากับ “เขาชนไก่” แห่งนี้ ว่ากันว่าสำหรับวัยรุ่นชายไทยที่มีอายุระหว่าง 15-18 ปี “เขาชนไก่” ไม่ต่างอะไรไปกับ “ฝันร้าย” ที่เหล่า รด.หนุ่มชั้นปีสุดท้ายจะต้องเผชิญหน้า ฟันฝ่า และก้าวผ่านไปให้จงได้ ทันทีที่รอยเท้าแรกถูกย่ำลงผืนดินของ “เขาชนไก่” มุมมอง ความคิด และประสบการณ์ในชีวิตของพวกเขาทุกคนจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าเสี้ยวเวลาแต่ละโมงยามสามารถเปลี่ยนแปลงคนได้ รับรองว่าการใช้ชีวิตกินนอนและฝึกอย่างสุดโหดตลอด 5 วันที่เหล่ารด. หนุ่มต้องเผชิญที่ “เขาชนไก่” จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมาสู่ชีวิตของพวกเขาทุกคนอย่างแน่นอน และเมื่อย้อนเวลากลับไป เมื่อใดก็ตามที่นึกถึง “เขาชนไก่” หลากหลายร่องรอยแห่งความทรงจำที่เกิดขึ้นกับพวกเขาก็พร้อมที่จะผุดขึ้นอีกครั้ง ประสบการณ์ทั้งสุข และทุกข์ ความเข้มข้น ขมขื่น สนุกสนาน และยากลำบาก และเชื่อเถอะว่า พวกเขาจะได้อะไรไม่น้อยจาก “เขาชนไก่” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก้าวข้ามวัยสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่ดีต่อไป… “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “บาแรมยู” พร้อมใจกันแท็กทีมหยิบเอาเรื่องราวความผูกพันแบบลูกผู้ชายที่หลายคนไม่เคยรู้ (แต่ก็อยากรู้โดยเฉพาะสาวๆ) ว่าเด็กผู้ชายวัย 15-18 ปีเขาไปทำอะไรที่ “เขาชนไก่” และตลอดระยะเวลา 5 วันที่นั่นเกิดอะไรขึ้นกับเหล่านักศึกษาวิชาทหาร (รด.) ปีสุดท้าย จากผลงานการกำกับเดี่ยวของ “วิทิต คำสระแก้ว” แห่ง “กั๊กกะกาวน์” (2547) ภายใต้การโปรดิวซ์โดย “ปรัชญา ปิ่นแก้ว, สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์ และ นิหน่า-สุฐิตา เรืองรองหริญญา” ในภาพยนตร์ดราม่า-คอเมดี้ที่มีชื่อชวนจำว่า “เขาชนไก่“ สถานที่ที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวของมิตรภาพและประสบการณ์แห่งคำว่า “เพื่อนแท้“ พวกเขาพร้อมแล้วที่จะถ่ายทอดเรื่องราวและประสบการณ์ “การก้าวข้ามแห่งวัย“ ที่เหล่ารด. หนุ่มทั้ง 10 คนจะต้องเผชิญหน้าร่วมกัน สำหรับ “หน่อย” (วศิษฎ์ ผ่องโสภา) แล้ว การที่ต้องเติบโตมาในฐานะลูกชายคนเล็กของบ้านที่มีพ่อเป็นผู้ตรวจราชการแผ่นดิน ทำให้ตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา หน่อยต้องเรียนรู้ชีวิตของเด็กผู้ชายที่เติบโตมาโดยแทบจะนับจำนวนเพื่อนได้ อย่าว่าแต่เพื่อนสนิทเลย หลายๆ ครั้งที่ต้องปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ ๆ เพราะนอกจากการที่ต้องย้ายบ้านบ่อยๆ พอๆ กับการย้ายโรงเรียนแล้ว ทำให้เขาเติบโตมากลายเป็นเด็กที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง และกลายเป็นไก่อ่อนในสายตาของเพื่อนๆ เสมอ จนกระทั่งขึ้นชั้น ม.6 หน่อยก็ยังไม่เลิกย้ายบ้านพร้อมๆ กับการย้ายโรงเรียน และที่ “โรงเรียนทรัพย์มณี” ที่สุดท้ายของการใช้ชีวิตวัยหนุ่มของเด็กมัธยมปลายอย่างหน่อยกำลังจะนำมาซึ่งประสบการณ์ชีวิตที่เขาไม่มีวันลืม เพราะนอกจากเพื่อนใหม่ทั้ง 9 คนที่ล้วนแล้วมีบุคลิกเฉพาะตัวแตกต่างกันตามแต่ละสไตล์ไม่ว่าจะเป็น “ปืน” (อาชว์ ไหลสกุล) หนุ่มสำอางขี้หลี, “พอลล่า” (ธนพล วิกิตเศรษฐ) เพื่อนหนุ่มผู้มีหัวใจสาวทั้งหน้าตาและกิริยามารยาท, “เก้ง-ก้าง” (ประสงค์-พงศ์ชัย งามภัทรวรกุล) แฝดนรกคู่ป่วนตัวจริง, “มด” (ทศพล ธนะพาสุข) เพื่อนร่างท้วมอารมณ์ดี คลั่งไคล้การกินเป็นชีวิตจิตใจ, “สมนึก” (วรัญญู วรพัทโรภาส) เพื่อนตี๋ที่เชื่อเรื่องวิญญาณและสิ่งลี้ลับ, “บุญรอด” (ฐิติพงษ์ ติโลกวิชัย) เพื่อนขี้โม้และมั่นใจในความฉลาดของตนจนเกินเหตุ, “อิฐ” (ทวีรัตน์ จุลศิริ) เพื่อนผู้เงียบขรึม ห้าว และเกเรที่สุดในหมู่เพื่อน และ “บ๊อบ” (อภิพล ตรีเทวะวงษา) ผู้ที่ไม่เคยยอมใคร หนำซ้ำยังพยายามวางตัวเป็นผู้นำกลุ่มเพื่อนอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่หน่อยและเพื่อนๆ จะต้องมีชะตากรรมร่วมกันคือสิ่งที่เหล่านักเรียน รด.ปีสุดท้ายทุกคนจะต้องฟันฝ่าไปให้ได้ นั่นคือการฝึกที่ใช้เวลาทั้งหมด 5 วันที่ “เขาชนไก่” สถานที่ฝึกรด. ที่ได้รับการกล่าวขานถึงว่าโหดและหินที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการโดดหอสูง 34 ฟุต ด่านกำแพง 10 ฟุต การฝึกที่หอการยิง การฝึกที่ลานซ้อมเข้าตีที่ว่ากันว่าโหดที่สุด เจ็บที่สุด และร้อนที่สุดด้วยระยะทางการฝึกถึง 1 ก.ม. ฯลฯ ภายใต้การฝึกอันสุดโหดจาก “จ่าไท” (สรพงษ์ ชาตรี) ครูฝึกสุดเหี้ยมประจำกองร้อยผู้ที่เลือกอิฐให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าหมู่แทนบ๊อบ และที่ “เขาชนไก่” นี่เอง หน่อยได้เห็นอีกหลากหลายแง่มุมในตัวของอิฐที่หลายคนไม่เคยรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลอดระยะการฝึกมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นกับทั้งในกลุ่มเพื่อนด้วยกันเอง เพราะนอกจากทุกคนจะต้องต้องพยายามเอาตัวรอดให้ได้ในสถานการณ์ต่างๆ แล้ว การเผชิญหน้ากับกลุ่มเด็กช่างกล รด.ต่างโรงเรียนตั้งแต่วันแรกของการฝึกที่พยายามรวมหัวกลั่นแกล้งและเล่นงานหน่อยกับพวก และเมื่ออิฐพยายามปกป้องเพื่อนกลับกลายเป็นว่าทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงยิ่งขึ้น จนเป็นชนวนสำคัญนำไปสู่เรื่องราวใหญ่โตเกินกว่าที่ทุกคนจะคาดคิดและรับมือได้ มันคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของ “เขาชนไก่” ที่หน่อยและเพื่อนๆ ของเขาจะต้องเรียนรู้ถึงสิ่งที่เรียกว่า “มิตรภาพ” และ “เพื่อนตาย” นั่นเอง แต่ไม่ว่าพวกเขาจะประสบชะตากรรมเช่นไร เมื่อวันหนึ่งพวกเขามองย้อนกลับมาที่ฝันร้ายครั้งนี้ เขาจะหัวเราะให้กับมัน และภาคภูมิใจที่ครั้งหนึ่งได้เคยฝันร้ายเช่นนี้ เช่นเดียวกับชายไทยอกสามศอกคนอื่นๆ…