รักปาฏิหาริย์ 2554

รักปาฏิหาริย์

รักปาฏิหาริย์ (2554/2011) คืนนั้น ณิชมน ชุติมันต์ ได้พบกับชายคนหนึ่งที่แม้เธอพยายามจะมองเขาแต่กลับเห็นหน้าไม่ชัด อาจเป็นเพราะหมอกที่หนาจัดในฤดูหนาวตอนกลางคืน ยามที่ณิชมนกำลังตกต่ำสุดๆแบบนี้ การได้กำลังใจจากใครสักคนมันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น แต่การขอแต่งงานหลังจากคำให้กำลังใจทำให้ณิชมนต้องคิดหนัก เพราะถึงแม้เขาจะดูหน้าตาดีและการันตีด้วยทรัพย์สินเงินทองจนถือได้ว่าเป็นชายในฝันที่เธอรอคอยมาตลอด แต่เธอจะตกปากรับคำขอแต่งงานจากคนที่เธอไม่รู้แม้แต่ชื่อมันจะเป็นไปได้อย่างไร

ขณะกำลังครุ่นคิดอย่างหนักนั้น ร่างของณิชมนก็เซไปเหมือนมีใครมาศอกเข้าที่ไหล่อย่างแรง ณิชมนตื่นขึ้นและพบว่าเธอฝันไป และศอกที่ว่าก็มาจากฝรั่งร่างใหญ่ที่นอนกินที่บนเครื่องชั้นประหยัดของเที่ยวบินจากอังกฤษสู่ประเทศไทยก้าวแรกที่สนามบินสุวรรณภูมิ ณิชมนรู้สึกว่าประเทศไทยที่เธอจากมากว่าสิบปีเปลี่ยนแปลงไปมาก เธอหวังว่าญาติที่พ่อเธอสั่งให้มาตามหาก่อนเขาตาย คงจะยินดีต้อนรับเธอและอภัยในสิ่งที่พ่อและแม่ของเธอเคยทำผิดไว้ ขณะที่ณิชมนลากกระเป๋าใบใหญ่และเป้เก่า ๆ มาที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ เธอก็ถูกรถเข็นของชายชาวต่างชาติชนเข้าโครมใหญ่ ชายคนนั้นเข้ามาขอโทษขอโพยและช่วยพยุ่งเธอลุกขึ้น ณิชมนคิดว่าเธอไม่เป็นอะไรมากจึงให้อภัยเขา ชายคนนั้นจึงเข็นรถจากไปแต่ภารกิจของณิชมนก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเธอพยายามค้นหากระเป๋าสตางค์ในเป้ แต่พบว่าเป้ถูกรีดขาดไปแล้ว ทั้งเงิน พาสปอร์ต เอกสารสำคัญพร้อมใจกันหายไปหมด ที่สำคัญเบอร์โทรศัพท์ตามหาญาติในเมืองไทย ซึ่งก็คือ นวลแข สุธาสิน ผู้เป็นยาย และ นันทนา คุณป้าแท้ ๆ ของเธอก็หายไปด้วย ที่อยู่กับตัวของเธอตอนนี้ก็คือ บัตรนักศึกษาและเงินไทยที่เพิ่งแลกมาแต่ก็แค่พันกว่าบาท ณิชมนแทบกรี๊ดกับชะตาชีวิตที่ตกต่ำแล้วตกต่ำอีกของตัวเอง แต่ไม่เป็นไร พ่อบอกแล้วลมหายใจยังมีก็ต้องใช้มันประคองร่างกายสู้ต่อหลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือแบบช่วยอะไรไม่ได้ของเจ้าหน้าที่สนามบิน เพราะกล้องวงจรปิดไม่อาจจับคนร้ายที่ฉลาดพอจะพรางตัวหายไปในฝูงทัวร์กลุ่มใหญ่แล้วถอดเครื่องอำพรางตัวออก แต่ณิชมนยังไม่หมดหวังเพราะอย่างน้อยเธอก็รู้ว่าญาติของเธออยู่ที่ อำเภอเทพสุธาในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ แต่หลังจากที่จ่ายค่าแท๊กซี่จากสนามบินมาถึงท่ารถ ณิชมนก็มีเงินเหลือไม่พอจะเดินทางไปถึงเทพสุธา เธอจึงซื้อตั๋วที่ไปได้แค่ครึ่งทางแล้วค่อยไปหามุขมั่วนิ่มไปลงที่ปลายทางแล้วกัน แต่แผนแกล้งนอนหลับบนรถก็ไม่ได้ผล เมื่อตั๋วของเธอหมดระยะและดันมีคนซื้อตั๋วที่นั่งของเธอต่อ ณิชมนถูกเด็กรถไล่ลงกลางทางในขณะที่พายุฝนโหมกระหน่ำณิชมนนั่งเศร้าอยู่ที่ศาลาริมทางของท่ารถเล็ก ๆ ยามนี้เธอเริ่มท้อแท้เป็นอย่างมาก เพราะถ้าที่นี่เป็นอังกฤษหรือประเทศไหนสักแห่งในยุโรป เธอคงยังจะพอเอาตัวรอดได้ แต่ประเทศไทยที่เธอจากไปตั้งแต่วัยไม่ถึงสิบขวบ เธอควรจะทำยังไงดี คิดแล้วก็ขอตายตามพ่อกับแม่ไปเลยดีกว่า ณิชมนตัดสินใจเดินฝ่าฝนออกไปยืนกลางถนน หวังจะให้รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วพาร่างของเธอไปสวรรค์หรือนรกตามแต่ฟ้าจะลิขิต และเป็นจริงสมใจ ไฟหน้ารถกระบะคันหนึ่งพุ่งตรงมาหาเธอ ณิชมนยืนหลับตารอรับความตายท่ามกลางเสียงเบรกดังอย่างแรงณิชมนลืมตาขึ้นเพราะคิดว่าเธอคงตายแล้ว ที่ไหนได้ตรงหน้าเธอเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา แต่สายตาของเขาโมโหอย่างรุนแรง ชายหนุ่มเปิดฉากต่อว่าณิชมนเสีย ๆ หาย ๆ เพราะชีวิตของเขาก็ต้องพังหากต้องกลายเป็นฆาตกร ณิชมนเองพอเถียงสู้ไม่ได้ก็หัวหมอบอกให้เขาชดใช้เงินค่าที่ทำเธอตกใจ ทั้งสองเถียงกันท่ามกลางสายฝน สุดท้ายชายหนุ่มจะลากณิชมนส่งตำรวจเพราะสงสัยว่าจะเป็นพวก 18 มงกุฎ ณิชมนจึงยอมรามือด้วยความเจ็บใจปล่อยให้ชายหนุ่มออกรถไประหว่างที่เธอกำลังเซ็งอยู่นั้น ก็มีรถกระบะอีกคันแล่นมาจอด ชายวัยกลางคนที่เป็นคนขับวิ่งฝ่าฝนลงมาหาเธอแล้วถามว่าเธอคือ ประนอม บุญเสริม ใช่ไหม เขาขอโทษที่มารับช้าเพราะติดฝนอยู่ในไร่ และรีบขยั้นขยอให้ณิชมนรีบไปเพราะคุณผู้หญิงรออยู่ ณิชมนคิดว่าในช่วงวิกฤติอย่างนี้เธอขอที่พักที่กินสักคืน แล้ววันพรุ่งนี้ค่อยว่ากันที่ห้องรับแขกของบ้านในไร่ สรณาลัย ณิชมนได้พบกับ พรรณอร นวพรรษ ประมุขของบ้าน พรรณอรรู้สึกแปลกใจมากที่ ประนอม บุญเสิรม ที่ส่งจดหมายมาสมัครบอกจบ ม.6 อายุ 25 ปี แต่คนที่เธอเห็นไม่น่าจะเกิน 20 ปี ณิชมนจึงโกหกไปว่าอายุเธอถึงแล้วแต่หน้าดูเด็กเอง เมื่อพรรณอรของดูหลักฐาน ณิชมนจึงเพียงแต่ให้ดูว่าเป้ถูกกรีดขาดและทุกอย่างหายหมด พรรณอร ลองเชื่อใจณิชมนดูเพราะเวลานี้เธอต้องดูแลธุรกิจหลายอย่างในไร่ทำให้ไม่มีเวลาดูแลบ้านหลังจากนั้น พรรณอรก็แนะนำสมาชิกในบ้านประกอบด้วย พรพรรณ ทัศนายุ น้องสาวของเธอที่ไม่ได้แต่งงานและมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยของพรรณอร ม.ล.พิมพ์นฤมล นวพรรษ หรือ นมล ลูกสาวคนโตวัย 18 ปี ที่สวย เก่ง แต่ไม่อยากเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ จึงเลือกเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อจะได้อยู่ที่ไร่ ม.ล.พันธ์นฤสรร์ หรือ พันสร ลูกชายคนเล็กวัย 5 ขวบที่กำลังเข้าเรียนประถมหนึ่ง ชัยวัฒน์ ครูหนุ่มที่มาคอยดูแลพันสร รวมถึงบริวารทั้งลุงดำเกิง คนขับรถแลคนสวน ป้ารำไพแม่ครัว กันยา สายใจ สองสาวใช้คู่ซี้ และด.ช.สมเจตน์ น้องของสายใจที่พรรณอรส่งให้เรียนณิชมนได้รู้ว่าสาเหตุที่พรรณอรต้องการแม่บ้านก็เพราะหลังจากที่ ม.ร.ว.นฤสรณ์ สามีของเธอเสียชีวิตลง งานทุกอย่างก็ตกมาอยู่ที่พรรณอร แม้จะตามน้องสาวคือพรพรรณมาช่วย แต่เธอก็ยังไม่มีเวลาดูแลบ้านและลูก ๆ เท่าไหร่ ทำให้ต้องลงประกาศทางอินเตอร์เน็ท แต่ไม่มีใครสมัครมาคงมีแต่ประนอม บุญเสริมคนเดียว ณิชมนพอรู้เรื่องราวก็คิดได้ว่าประนอมคงจะสละงานนี้แล้ว และเธอก็กำลังต้องการงานและเงิน อีกทั้งจะได้สืบหาญาติของเธอด้วย จึงคิดจะสวมรอยไปสักพักเย็นวันนั้น นมล อาสาพาณิชมนขี่ม้าชมไร่ จนมาถึงท้ายไร่ณิชมนออกอุบายทำเป็นเหนื่อยและให้ณิชมนเดินเล่น เมื่อสบโอกาส นมล ก็แอบเดินแยกไป ณิชมนเดินไปเรื่อย ๆ ก็เกิดหลงทาง ยิ่งตามก็ยิ่งไม่เจอ จนเธอเดินไปพบน้ำตกแสนสวย ใจคิดจะนั่งเล่นสักพัก แต่ยังไม่ทันจะก้าวขาเดินเธอก็พบงูเห่าตัวหนึ่ง ณิชมนคิดจะค่อย ๆ ถอยหนีแต่เกิดพลาดเสียหลักล้ม งูจึงเลื้อยเข้ามาระหว่างนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นแล้วเจ้างูโชคร้ายก็ตายสนิทณิชมน หันไปก็เจอชายหนุ่มที่พบกันครั้งอยู่ศาลา เธออยากจะขอบคุณแต่ชายหนุ่มกลับต่อว่าและหาว่าเธอบุกรุก ณิชมนจึงเปลี่ยนใจเป็นต่อว่า ๆ เขาใจร้ายฆ่าสัตว์ที่อาจจะไม่ทำร้ายเธอก็ได้ ทั้งสองเถียงกันเพราะณิชมนเข้าใจว่าเขาเป็นคนงาน จึงบอกจะฟ้องพรรณอร ชายหนุ่มพอได้ยินก็ยิ่งโกรธและไล่ณิชมน ณิชมนไม่ไปเพราะถือว่าอยู่ในไร่ของเจ้านาย เถียงกันไปมาจน นมลวิ่งหน้าตื่นมาพร้อมกับ ม.ล.รวิภาส บุริศร์ หรือ ภาส สองหนุ่มสาวตกใจมากที่เจอกับ คุณชายบุรธัช หรือ ม.ร.ว.บุรธัช บุริศร์คุณชายธัชไม่พอใจมากจึงลากตัวภาสกลับไป นมล บอกให้ณิชมนรู้ว่าชายทั้งสองคือคุณชายธัชมีศักดิ์เป็น อาแท้ ๆ ของ ภาส ซึ่งภาสเป็นรุ่นพี่ของเธอที่โรงเรียนเก่า ณิชมนเห็นอาการของนมลเล่าด้วยความเศร้าก็รู้ทันทีว่าหนุ่มสาวสองคนรักกัน แต่เมื่อถาม นมล ก็ไม่ยอมรับ แต่ที่ณิชมนไม่เข้าใจก็คือทำไม นมล ปล่อยให้คนอื่นมาวางก้ามในไร่ นมล บอกว่าณิชมนกับเธอต่างหากที่บุกรุก เพราะณิชมนหลุดเข้ามาตรงช่วงที่ ภาศกับนมลแอบตัดรั้วลวดหนามไว้นั่นเองนมล เล่าอีกว่า เมื่อก่อนสองบ้านก็เป็นเพื่อนกัน เพราะพ่อของเธอและพี่ชายกับพี่สะใภ้ของ คุณชายธัช ซึ่งก็คือพ่อกับแม่ของภาสเคยเป็นเพื่อนรักกัน เพราะเป็นคนชวนกันมาซื้อไร่ที่นี่ แต่วันหนึ่งที่พ่อของเธอและพ่อแม่ของภาสต้องไปเจรจาธุรกิจในตัวจังหวัด ขากลับปรากฎว่าพ่อแม่ของภาสรถคว่ำเสียชีวิต คุณชายธัชต้องถูกเรียกตัวกลับมาจากเมืองนอก และแถมว่าไร่ของภาสก็จะถูกยึดคุณชายธัชจึงต้องมาช่วยแก้ไขสถานการณ์และรับซื้อไร่คืนจากนายทุน ถัดมาอีกสองปีพ่อของเธอก็เสียด้วยโรคมะเร็ง พรรณอรต้องดูแลกิจการเอง ซึ่งกลับโตวันโตคืน ธุรกิจหลายอย่างที่พ่อแม่ของภาสเคยชวนลงทุนกลับมาอยู่ในมือพรรณอร ทั้งโรงสี โรงน้ำแข็ง โรงบ่มยา ฟาร์มแกะ ตั้งแต่นั้นคุณชายธัชก็ไม่ชอบครอบครัวเธอ เพราะคิดว่าพ่อของเธอทำให้พี่ของคุณชายเสียและฮุบกิจการไป ไม่ว่าครอบครัวเธอจะพยายามผูกมิตรอย่างไรตั้งแต่สมัยพ่อเธอยังมีชีวิตจนพ่อเธอไม่อยู่ คุณชายก็ไม่เคยญาติดีด้วย ณิชมนพอได้ฟังเรื่องราวจบก็คิดทันทีว่าคุณชายบุรธัชเป็นคนที่เย่อหยิ่ง ทิฐิและใจแคบจนไม่น่าคบ นมล ขอร้องณิชมนไม่ให้บอกเรื่องกับแม่ของเธอ เพราะไม่อยากให้แม่เสียใจวันรุ่งขึ้น ณิชมน ต้องเข้าไปซื้อกับข้าวและของใช้ในบ้านที่ตลาดในเมือง นมล ขอตามไปด้วยณิชมนก็ไม่ว่าอะไร แต่เมื่อไปถึงตลาดก็ได้เจอ ภาส รออยู่ณิชมนหลังจากได้คุยกับภาสก็คิดว่าน่าไว้ใจได้จึงปล่อยให้ทั้งสองนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟระหว่างเธอไปซื้อของ เมื่อกลับมาก็พบว่า คุณชายธัชกับสาวสวยคนหนึ่งได้แอบตามภาสมาคุณชายไม่พอใจที่เด็กทั้งสองไม่เชื่อคำสั่ง ณิชมนเห็นว่าคุณชายนั่นแหล่ะที่พูดไม่รู้เรื่อง ไม่ควรจะห้ามเด็กทั้งสองคบกันเพียงเพราะโมหะที่ขาดเหตุผลของผู้ใหญ่ คุณชายธัชจึงพูดจาดูถูกณิชมนว่าเป็นเรื่องของเจ้านาย ลูกจ้างอย่างเธอไม่เกี่ยว ณิชมนสวนกลับเรื่องสิทธิมนุษยชนจนคุณชายอึ้งว่าคนใช้ทำไมคิดเรื่องแบบนี้ได้ ณิชมนจึงรีบหุบปากทันที เมื่อคุณชายและภาสกลับไปแล้วณิชมนจึงได้รู้ว่าสาวสวยที่มากับคุณชายชื่อ วนิดา น่าจะเป็นแฟนคุณชายเพราะทุกคนก็เพิ่งรู้จักได้ไม่กี่ครั้ง ณิชมนยิ่งเห็นความเป็นเผด็จการของคุณชายเพราะทีตัวเองมีแฟนได้ แต่กับหลานบังคับควบคุมทุกอย่าง ณิชมนจึงได้แต่ปลอบนมล ว่าถ้ามีโอกาสเธอจะช่วยนมลอย่างแน่นอนทำให้นมลรู้สึกดีขึ้นทางด้านคุณชายกับภาสหลังจากที่ส่งวนิดาแล้วคุณชายกับภาสก็มีปากเสียงกัน เพราะคุณขู่ว่าถ้าภาสยังดื้อกับเขาอีกเขาจะส่งภาสไปอยู่เมืองนอก ภาสโมโหจึงทวงมรดกที่พ่อกับแม่เขาเตรียมไว้ให้และคิดว่าคุณชายธัชคิดจะฮุบ แต่คุณชายธัชยังไม่ให้ ภาสจึงประกาศว่าเขารัก นมล เขาจะหาทางคบกับ นมลให้ได้ ทำให้คุณชายธัชยิ่งกลุ้มใจ คุณชายธัชตัดสินใจบุกไปหาพรรณอรที่ไร่ ณิชมนกับนมลแอบฟังทั้งสองคุยกันแล้วรู้สึกสงสารพรรณอรที่ถูกคุณชายพูดจาหมิ่นเกียรติต่าง ๆ นานา คุณชายขอให้พรรณอรเลิกความคิดที่จะส่งลูกสาวมาจับหลานชายของเขาโดยใช้ณิชมนมาบังหน้า เพราะสิ่งที่พรรณอรโกงพ่อแม่ของภาสไปก็มากเพียงพอแล้ว พรรณเสียใจที่คุณชายไม่ยอมเข้าใจเธอจึงรับปากว่าจะไม่ให้ นมล ยุ่งกับ ภาสอีกเมื่อคุณชายกลับไปพรรณอรจึงเรียกณิชมนและนมลไปพบ ณิชมนถูกสั่งห้ามยุ่งเรื่องนี้อีก ส่วน นมล ถูกสั่งห้ามพบกับภาส ส่วนภาสติดต่อกับนมลไม่ได้ เขาจึงใช้วิธีขอความช่วยเหลือจากณิชมน ณิชมนพอได้คุยกับภาสแล้วเธอก็ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วภาสรักนมลมากอย่างจริงใจมาตั้งแต่สมัยเรียน และเมื่อเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ได้ก่อน แต่ นมล เลือกที่จะอยู่ที่ไร่เป็นเพื่อนแม่กับน้าที่เป็นผู้หญิง ภาสจึงลาออกและกลับมาอยู่ที่ไร่ ทำให้คุณชายยิ่งโทษว่านมลจะทำให้หลานชายคนเดียวเสียอนาคต และตอนนี้ภาสตัดสินใจแล้วว่าเขาจะพานมลหนีไปอยู่ด้วยกัน ณิชมนรีบค้านทันทีเพราะการแก้ปัญหาของภาสมีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลงทางด้านพรรณอรกับพรพรรณก็กลุ้มใจกับเรื่องที่ได้รู้ว่า นมล กับ ภาส แอบคบกัน แม้จะไมได้รังเกียจภาส แต่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าอนาคตของหนุ่มสาวคู่นี้ไปไม่รอดแน่ เพราะคุณชายธัชคงต้องขัดขวางทุกวิธีทาง ทั้งสองพี่น้องจึงแก้ปัญหาด้วยการเชิญเพื่อนเก่าที่เป็นคู่ค้าด้วยคือ ครอบครัวของ พาณี – สุเทพ ประภานิช มาพักที่ไร่โดยให้ทั้งคู่พาลูกชายคือ พงษ์เทพ ประภานิช มาด้วย เพราะคิดว่าการที่ นมล ได้เจอคนอื่นบ้างอาจจะทำให้ นมล คิดได้และหันมาชอบคนที่แม่กับน้าสนับสนุนแต่เมื่อครอบครัวประภานิชมาพักที่ไร่ กลับกลายเป็นว่าพงษ์เทพรู้สึกประทับใจการเอาการเอางานและความเก่งของณิชมน ชัยวัฒน์ที่หมายตาณิชมนมาก่อนจึงไม่ค่อยชอบพงษ์เทพ และคอยขวางเวลาพงษ์เทพอยู่ใกล้กับณิชมน ส่วนนมลเองก็รู้เท่าทันความคิดของแม่และน้าจึงพูดตรง ๆ กับพงษ์เทพว่าเธอนับถือเขาเหมือนพี่ชาย ซึ่งพงษ์เทพเองก็สารภาพว่าเขาเองชอบณิชมน นมลจึงอาสาจะเป็นแม่สื่อให้ โดยเปิดโอกาสให้พงษ์เทพกับณิชมนต้องทำงานด้วยกันบ่อย ๆ และหลายครั้งที่คุณชายธัชเองได้เจอกับณิชมนและนมลพร้อมด้วยพงษเทพตามสถานที่ต่าง ๆ ทำให้คุณชายธัชยิ่งคิดว่าณิชมนเป็นผู้หญิงที่ชอบจับคนรวย เมื่อมีโอกาสได้คุยกันคุณชายก็จะคอยกระแนะกระแหนปะทะฝีปากกับณิชมนไปทุกครั้ง จนณิชมนตั้งปณิธานว่าจะไม่มีวันญาติดีกับผู้ชายจอมเผด็จการคนนี้เป็นอันขาดวันเวลาผ่านไปณิชมนเริ่มรักครอบครัวพรรณอรทุกคน ยกเว้นก็เพียงชัยวัฒน์เพราะหลายครั้งชัยวัฒน์มักให้ความรู้แบบที่ไม่ค่อยถูกต้องและชอบอู้งานชวนพันสรกินกับนอนทั้งวัน รวมทั้งชัยวัฒน์เองก็ชอบทำทีเป็นจีบณิชมนอยู่บ่อย ๆ จนเธอรำคาญ จนวันหนึ่งณิชมนทนไม่ไหวกับการสอนของชัยวัฒน์จึงให้ความรู้ที่ถูกต้อง ชัยวัฒน์โกรธที่ถูกหักหน้าต่อหน้าเด็กแต่ก็ทำให้เขาสงสัยว่า ประนอม คนนี้อาจจะไม่ได้จบ ม.6 อย่างที่อ้าง ชัยวัฒน์ขู่จะกระชากหน้ากากของณิชมน ณิชมนจึงสวนกลับว่าเธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าชัยวัฒน์จบครูจริงหรือเปล่า ชัยวัฒน์จึงได้แต่เก็บความไม่พอใจไว้ในใจไม่กล้าหือกับณิชมนอีกวันหนึ่งทางหอการค้าจังหวัดจัดงานเลี้ยงต้อนรับหอการค้ายุโรปที่มาดูตลาดสินค้าเกษตร พรรณอรได้รับการขอร้องให้ช่วยเหลืองานร่วมกับทางไร่ของคุณชายบุรธัช แต่พรรณอรอยากปฎิเสธเพราะรู้ว่าคุณชายธัชต้องไม่ร่วมงานกับเธอแน่ แต่ทางจังหวัดก็ขอร้องเพราะถ้าพรรณอรไม่รับงานนี้จะเสียมารยาทและอาจจะมีผลเสียถึงเกษตรกรคนอื่น ๆ ที่จะต้องทำการค้าร่วม พรรณอรจึงมอบหมายให้ณิชมนช่วยเป็นตัวแทนเธอไปทำงานนี้ ณิชมนพอรู้ว่าต้องทำงานกับคุณชายธัชจึงอยากปฎิเสธแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเจ้านายบังคับ ในใจก็นึกแต่ว่ายิ่งเกลียดผู้ชายคนนี้แต่กลับยิ่งเจอ เมื่อไหร่ปาฎิหาริย์ชายในฝันจะเกิดขึ้นกับเธอเสียทีวันประชุมงาน คุณชายบุรธัชพูดจาเยาะเย้ยดูถูกณิชมนที่กล้ามาเป็นตัวแทนของพรรณอร ณิชมนบอกว่าเธอจะพิสูจน์ให้คุณชายเห็นเองว่าแม่บ้านอย่างเธอก็ทำงานใหญ่ ๆ ได้ ณิชมนเสนอว่าการที่จังหวัดจะเสนออาหารไทยจากผลผลิตท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ดี แต่น่าจะนำเสนอวัตถุดิบอื่นที่ทางจังหวัดผลิตได้เพื่อขยายตลาด เช่น เอาหวายที่สานตะกร้าไปทำเสื่อรองจานอาหาร เอากกที่ทอเสื่อไปทำชุดว่ายน้ำ โดยจัดมุมแสดงสินค้ากันให้เต็มที่ ที่ประชุมเห็นดีด้วย และมอบหมายให้ไร่ของพรรณอรและไร่ของคุณชายธัชช่วยประสานงานร่วมกัน ณิชมน ขอทำอย่างอื่นคนเดียวแต่คุณชายรีบรับปากมัดมือชกทันที เพราะคุณบุรธัชเริ่มสงสัยว่าประนอมคนนี้จบ ม.6 แม้จะมีนิสัยเด็ก ๆ ชอบเถียงชอบเอาชนะ แต่มุมมองความคิดกว้างไกลเกินที่จะเป็นคนท้องถิ่นมาจากสังคมแคบ ๆ หลังจากที่ประชุมคุณชายจึงเข้ามาคุยกับณิชมนและท้าว่าณิชมนไม่ควรเก่งแต่ปาก น่าจะลงมือทำให้ดู ณิชมนรับคำท้าและเมื่อต้องมาร่วมมือกัน คุณชายธัชก็คอยแต่จะแกล้งเตะถ่วงณิชมนต่าง ๆ นานา จนสุดท้ายพงษ์เทพจึงอาสามาช่วยแทน คุณชายธัชยิ่งเห็นสองคนทำงานเขาขาก็ยิ่งหมั่นไส้ พูดจาเหน็บแนมแกล้งณิชมนต่าง ๆ นานา จนวันหนึ่งณิชมนทนไม่ไหว้จึงใช้นิสัยฝรั่งขอคุยเปิดอกกับคุณชาย ด้วยความถือทิฐิของคุณชายจึงพูดไปว่าเขารังเกียจผู้หญิงที่ไล่จับผู้ชาย ณิชมนโมโหตบหน้าคุณชายทันทีและบอกให้คุณชายรู้ว่าไม่ว่าจะคนที่อยู่ฐานะไหน ต่างกันอย่างไร ความเจ็บปวดมีเสมอกัน ถ้าคุณชายถือตัวว่ามีการศึกษาชาติตระกูลจะเข้าใจสิ่งที่เธอพูด คุณชายถึงกับอึ้งที่ถูกณิชมนต่อว่าอย่างผู้ดี เพราะไม่คิดว่าสาวบ้านนอกจะพูดจาได้คมคายขนาดนี้ คุณจึงเริ่มคิดว่าจะต้องสืบเรื่องราวของณิชมนให้ได้ทางด้านวนิดาที่อยู่กรุงเทพฯ แล้วรู้สึกคิดถึงคุณชายเป็นอย่างมาก จึงขออนุญาตแม่ซึ่งก็คือนันทนา (ณิชมนยังไม่รู้ว่าวนิดาเป็นญาติเพราะคนละนามสกุลกับยาย) ไปทำงานที่ไร่ของคุณชายบุรธัช ซึ่งนันทนาก็เห็นดีด้วยเพราะรู้ว่าลูกสาวไม่ชอบชีวิตที่กรุงเทพฯ เมื่อวนิดามาถึงก็อาสาช่วยงานคุณชายและต้องร่วมงานกับณิชมน วนิดารู้สึกถูกชะตากับณิชมนกับนมลเป็นอย่างมากจนคุณชายเริ่มหมั่นไส้ณิชมน เพราะไม่ว่าใครทั้งหญิงทั้งชายดูจะหลงเสน่ห์แม่บ้านความรู้น้อยคนนี้กันหมด ณิชมนพยายามขอร้องให้วนิดาช่วยพูดกับคุณชายเรื่องภาสกับนมลแอบชอบกัน เพราะเธอคิดว่าการที่ผู้ใหญ่ไปขัดขวางจะยิ่งทำให้เด็ก ๆ จะเตลิดไปกันใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ นมลและภาส ก็เป็นคนดีเข้าตามตรอกออกตามประตู ไม่เคยคิดเกินเลยต่อกัน วนิดาเข้าใจทั้งหมดและรับปากจะช่วยให้ดังนั้นก่อนถึงวันงาน วนิดาจึงหาโอกาสพาภาสมาเจอกับนมล และให้ร่วมทำงานกันโดยพยายามไม่ให้คุณชายรู้เรื่อง ภาสกับนมลค่อยรู้สึกสบายใจที่มีผู้ใหญ่อยู่ข้างพวกเขา และรู้สึกรักและขอบคุณณิชมนที่คอยช่วยเหลือ จนทั้งคู่รู้สึกว่าณิชมนในคราบประนอมเป็นเหมือนพี่สาวจริง ๆจนวันงาน ก็มีการแสดงบนเวที คุณชายธัชโกรธมากที่เห็นว่าภาสกับนมลได้เป็นตัวแทนจังหวัดนำเสนอสินค้าโดยที่เขาไม่รู้เรื่อง คุณชายคิดว่าเรื่องนี้พรรณอรกับพรพรรณต้องมีส่วนรู้เห็น จึงไปเอาเรื่องสองพี่น้อง และประกาศว่าถ้าพวกไร่ สรณาลัย ทำแบบนี้ได้เขาก็จะทำมาตรการรุนแรงบ้างด้วยการส่งภาสไปเมืองนอกในเดือนหน้า ภาสกับนมลแอบได้ยินเรื่องนี้ ทั้งคู่จึงตัดสินใจหนีไปด้วยกันในคืนนั้นรุ่งเช้า คุณชายธัชมาตามหาหลานที่บ้านพรรณอรพร้อมด้วยวนิดา จึงได้รู้ว่านมลก็หายไปด้วย คุณชายโกรธมากจะเอาเรื่องแต่ณิชมนเป็นคนห้ามไว้ เพราะถ้าเรื่องบานปลายใหญ่โตจะยิ่งทำให้เด็กทั้งสองพากันหนีไปไกลแน่ ณิชมนขอเวลาจัดการเรื่องนี้เอง เธอสืบเรื่องนี้จนได้เบาะแสว่า ภาสขับรถหนีเข้าป่าไป ณิชมนจะไปตามโดยจะเอาพงษ์เทพไปเป็นเพื่อน แต่คุณชายธัชยืนยันจะไปด้วยเถียงกันไปเถียงกันมา คุณชายโมโหลากณิชมนขึ้นรถแล้วขับออกไป ทิ้งให้พงษ์เทพกับวนิดาอยู่เฝ้าบ้านด้วยความเป็นห่วงระหว่างเดินทาง ณิชมน พาคุณชายไปพบกับ ครูมงคล ที่เป็นครูเก่าของภาสและนมล จึงได้รู้ว่าทั้งสองไปหลบอยู่ที่ไร่ของญาติของครูซึ่งอยู่ในภูเขากันดารมาก ณิชมนและคุณชายต้องเดินทางไปกันจนน้ำมันรถไปหมดกลางทาง คุณชายบุรธัชที่ภายนอกดูเข้มแข็งแต่เอาเข้าจริงกลับไม่สมบุกสมบันต้องป่วยเป็นไข้ป่า ณิชมนกลายเป็นคนที่ดูแลและพาไปส่งอนามัย เมื่อคุณชายฟื้นขึ้นก็แปลกใจที่พบว่าณิชมนยังดูแลเขาอยู่ ณิชมนบอกว่าเธอทำไปเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยชีวิตเธอไว้จากงูเห่า คุณชายเถียงว่าแต่ตอนนั้นณิชมนว่าเขาใจร้าย ณิชมนสารภาพว่าจริง ๆ เธอตั้งใจจะขอบคุณ แต่เห็นความไม่เป็นมิตรของคุณชายก็เลยตะแบงเรื่องซะงั้นเมื่อไข้หายคุณชายกับณิชมนก็เดินทางไปต่อจนพบกับ ภาสและนมล เด็กทั้งสองกลัวคุณชายและคิดจะหนีอีก แต่ณิชมนเตือนสติเด็กทั้งสองว่าทำแบบนี้ก็จะไม่มีความสุขไปอีกนาน และเมื่อมีลูก ๆ ที่เกิดมาก็จะมีปมด้อย เธอเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ทางที่ดีทั้งสองคนต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีความรักความจริงใจต่อกันจนคุณชายและพรรณอรยอมรับ คุณชายบุรธัชแอบมาฟังสิ่งที่ณิชมนเตือนเด็ก ๆ จึงใจอ่อนและยอมให้ทั้งสองคบกัน ขอแค่กลับไปบ้านและตั้งใจเรียนให้จบทั้งคู่ก่อนจะกลับคุณชายธัชถามณิชมนว่าเธอเป็นใครกันแน่ เพราะเธอดูไม่น่าจะชื่อประนอม บุญเสริม และเรื่องที่ปลอบภาสกับนมลเธอช่างพูดได้ราวกับประสบกับตัวเอง ณิชมนบอกได้แต่เพียงว่า พ่อกับแม่ของเธอก็เคยทำผิดแบบนี้และหนีไปอยู่ที่อื่น เธอจึงรู้ดีกว่าพ่อกับแม่ของเธอไม่เคยมีความสุข ชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย และเมื่อวันหนึ่งพ่อกับแม่ของเธอไม่อยู่ เธอจึงรู้สึกว่าเป็นคนเดียวบนโลก คุณชายธัชได้ฟังก็สงสารเข้ากอดณิชมนทันที ณิชมนแม้จะรู้ว่าไม่สมควรแต่เธอก็รู้สึกอบอุ่นจากการกอดของคุณชายธัชเมื่อนำนมลกลับมาบ้าน พรรณอรที่ดีใจเป็นอย่างมากจึงบอกคุณชายว่าเธอจะส่งนมลไปเรียนกรุงเทพฯ แต่คุณชายค้านว่าไม่จำเป็น ถ้าพรรณอรอยากดีกับครอบครัวเขาก็เอาทรัพย์สินส่วนที่โกงไปมาคืนภาสก็พอ เพราะคุณชายคงรับไม่ได้ถ้าภาสจะแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อแม่เคยโกงสมบัติของภาสไป พรรณอรจึงพาคุณชายไปที่ห้องทำงาน และเอาเอกสารให้คุณชายดูทุกอย่าง เพราะแท้จริงแล้ว พ่อแม่ของภาสต่างหากที่บริหารไร่ผิดพลาดจนเป็นหนี้เป็นสิน แต่ด้วยความละอายใจไม่อยากรบกวนทรัพย์สินส่วนของคุณชายบุรธัช จึงมาขอยืมเงินสามีเธอเพื่อไปลงทุน แต่ก็ขาดทุนทุกครั้ง แต่ด้วยความที่สองครอบครัวรักกันมาก พรรณอรจึงรับซื้อกิจการต่าง ๆ ไว้ และวันที่พ่อแม่ของภาสประสบอุบัติเหตุ ก็เป็นวันที่ทั้งสองจะไปเจรจาผ่อนผันหนี้กับหุ้นส่วน ซึ่งสุดท้ายก็เป็นครอบครัวเธออีกนั่นแหล่ะที่ต้องไปรับช่วงซื้อไว้ คุณชายบุรธัชหลังจากที่ได้รู้ความจริงก็ทั้งอึ้งและเสียใจกับการกระทำในอดีตของตน รวมทั้งที่เคยหมิ่นเกียรติของพรรณอรว่าเป็นเพียงลูกพ่อค้าที่หวังจะแต่งกับคนมีเกียรติด้วยหลังจากวันนั้นครอบครัวทั้งสองก็กลับมาเป็นมิตรกันดังเดิม คุณชายธัชมาขอบคุณณิชมนที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น พงษ์เทพเองเห็นณิชมนกับคุณชายเข้ากันได้ดี จึงมาปรึกษาคุณชายเรื่องที่เขาชอบณิชมน แต่พ่อแม่ไม่เห็นด้วยจึงอยากให้คุณชายช่วยคุยกับพ่อแม่ของเขา เพราะเขาอยากจะขอหมั้นกับณิชมน คุณชายทำอะไรไม่ถูกได้แต่รับปากไป ส่วนวนิดาเองก็เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของคุณชายธัช เพราะวัน ๆ คุณชายเอาแต่สนใจที่จะพาตัวไปอยู่ใกล้ณิชมน ซึ่งณิชมนเองก็พยายามพาตัวออกห่างเพราะเกรงใจวนิดาจนวันหนึ่งประนอม บุญเสริม ตัวจริงก็โผล่มาที่ไร่ ประนอมสารภาพผิดกับพรรณอรว่าเธอทิ้งงานเพราะอยากไปอยู่กรุงเทพฯ มากกว่า แต่สุดท้ายโรงงานที่เธอทำงานก็ปลดพนักงานออก เธอจึงอยากขอมาทำงานที่ไร่ พรรณอรเรียกณิชมนมาพบ เมื่อรู้ว่าณิชมนปลอมตัวมาแม้จะสารภาพความจริงทั้งหมดว่าฉวยเอางานประนอมเพราะไม่มีเงินและไม่มีที่ไป แต่พรพรรณและชัยวัฒน์ก็ยุให้ไล่ณิชมนออก ไม่เช่นนั้นจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับลูกน้องคนอื่น ณิชมนรู้ว่าทำให้ทุกคนลำบากใจเธอจึงขอลาออกเอง แต่เธอขออนุญาตไม่ลาใครเพราะไม่อยากเสียใจที่ต้องลาทุกคนที่เหมือนเป็นครอบครัวของเธอไปแล้วเมื่อภาส นมลรู้เรื่องก็รีบไปบอกคุณชายธัช ทั้งคุณชาย วนิดา พงษ์เทพต่างเป็นห่วงพยายามออกตามหาณิชมน จนวันเวลาผ่านไปสามเดือน วนิดาก็เริ่มทำใจได้กับการที่คุณชายธัชมีแต่ความเศร้าซึม วนิดาถามคุณชายตรง ๆ ว่ารัก ณิชมนใช่ไหม คุณชายยอมรับและขอโทษวนิดา วนิดาเข้าใจทุกอย่างและเธอก็ไม่อยากบังคับใจคุณชาย แต่เธอก็เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะอยู่กับความเจ็บปวดที่เห็นคนที่เธอรักไปรักคนอื่น วนิดาขอออกจากงานที่ช่วยคุณชายตอนแรกวนิดาตั้งใจว่าจะกลับกรุงเทพฯ แต่ในยามนี้เธออยากกลับไปหาบรรยากาศเก่าที่เคยเติบโตมา จึงเดินทางไปเทพสุธาเพื่อไปดูบ้านเก่าและโรงเรียนเก่าของเธอ ครูดาวเรืองพาเธอเยี่ยมชมโรงเรียนและเล่าว่า ตอนนี้มีครูมาใหม่ภาษาอังกฤษเก่งมาก ฝรั่งเศสก็ได้ แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานอะไรเลยจึงให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กไปก่อน วนิดาตั้งใจจะบริจาคเงินช่วยเหลือแล้วกลับแต่ครูดาวเรืองบอกว่าครูคนใหม่คนนี้นามสกุลเดียวกับยายของวนิดาด้วย วนิดาสงสัยจึงขอพบตัว และเธอก็ต้องตกใจที่กลายเป็นณิชมน เมื่อได้ดูบัตรนักศึกษาและรายละเอียดเกี่ยวกับ น้าของเธอที่ชื่อณัชชาแล้ว วนิดาก็แน่ใจว่าณิชมนคือน้องสาวของเธอณิชมนเล่าว่า ณ ห้องใต้ดินเก่า ๆ ชานกรุงลอนดอน ณิชมนกลับมาจากทำงานพิเศษเพื่อมาฉลองอายุครบ 20 ปีกับพ่อคือ ชยทัต ชุติมันต์ แต่ภาพที่เธอได้เห็นเป็นของขวัญวันเกิดคือชยทัตนอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้น ณิชมนรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลอาการของชยทัตก็หนักมาก ชยทัตบอกให้ณิชมนหนีไปเมืองไทยโดยให้นาฬิกาโรเล็กซ์ ของแม่ณิชมนที่เขาเคยขโมยไปเพื่อเอาไปขาย แต่มาสำนึกผิดว่านี่เป็นของที่ยายณิชมนให้แม่ติดตัวมาและมันก็เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของเธอ แต่ยังที่ไม่ทันจะเอาไปคืนแม่ณิชมนก็สิ้นใจไปก่อนจากการป่วยและไม่มีเงินไปหาหมอ ชยทัตรู้สึกผิดจึงเก็บนาฬิกาและเรื่องนี้ไว้ แต่ตอนนี้เขาอยากให้ณิชมนเอาไปขายเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทยไปหาญาติ ชยทัตหยิบกระดาษเก่า ๆ ที่แม่เคยเขียนเบอร์ของยายไว้ให้ณิชมน และกล่าวขอโทษที่ทำให้ทุกคนลำบาก แล้วเขาก็สิ้นใจณิชมนเสียใจมากแต่ก็ต้องใจแข็งมาติดต่อเคาน์เตอร์เรื่องศพพ่อ แต่ยังไม่ทันได้ติดต่อ เธอก็ถูกพวกเจ้าหนี้ที่เป็นแก๊งคนจีนในลอนดอนตามจับตัว เพื่อจะเอาไปขายใช้หนี้ ณิชมนหนีมาได้หวุดหวิด และตัดสินใจขายนาฬิกาเอาเงินซื้อตั๋วเครื่องบินมาไทย แต่ระหว่างที่ถึงเมืองไทยก็โดนกรีดกระเป๋าและกลายมาเป็นประนอม บุญเสริมอย่างที่วนิดาเห็นวนิดาพอรู้เรื่องต่าง ๆ ก็เสียใจกับชะตาชีวิตของน้องสาว วนิดาบอกว่าต่อไปนี้ณิชมนจะไม่อยู่ตัวคนเดียวแล้ว เธอจะมีทั้งพี่สาวและคุณชายบุรธัช ณิชมนงงง่าคุณชายมาเกี่ยวอะไรหรือหมายถึงเป็นพี่เขย เมื่อคิดได้ว่าวนิดาเป็นแฟนคุณชาย ณิชมนก็รีบแสดงความดีใจทั้ง ๆ ที่เศร้า แต่วนิดาบอกให้ไปกับเธอแล้วจะรู้เอง และที่สำคัญณิชมนก็ยังมีญาติอีกคนคือ คุณปู่โชติ ชุติมันต์ ที่เป็นเจ้าของที่ดินในอำเภอ ชุติมาศ วนิดาพาณิชมนไปพบกับคุณปู่ ๆ ดีใจมาก เพราะชยทัตคือลูกคนเดียวที่คุณปู่เลี้ยงดูตามใจจนเสียคน เมื่อโตขึ้นก็เกเรจนทะเลาะกันจนคุณปู่รับพฤติกรรมไม่ไหวประกาศตัดพ่อตัดลูก และนี่คงเป็นสาเหตุที่ชยทัตไม่ยอมเล่าเรื่องของปู่ให้ณิชมนฟังคืนนั้นณิชมนกับวนิดานอนหลับอย่างเป็นสุขที่บ้านชุติมันต์ และณิชมนก็ฝันถึงชายหนุ่มที่เคยฝันอีก แต่คราวนี้เธอเห็นหน้าเขาชัด ๆ ว่าเป็นคุณ่ชาย บุรธัช ณิชมนตกใจตื่นขึ้นมาและรู้สึกผิดคิดอยากเขกหัวตัวเองที่ไปฝันถึงผู้ชายของพี่สาว ณิชมนพยายามข่มตาให้หลับแต่สุดท้ายก็แพ้ใจตัวเองที่คิดถึงคุณชายธัชเช้าวันรุ่งขึ้น ที่ไร่บุริศราวัณ คุณชายธัชดีใจมากที่ได้เจอณิชมนอีก และเขาก็ยิ่งดีใจที่รู้ว่าเป็นน้องสาววนิดา ๆ บอกให้คุณชายดูแลน้องสาวให้ดี ณิชมนปฎิเสธที่จะคบกับคุณชายเพื่อพี่สาว แต่วนิดาบอกว่าเธอดูออกว่าอะไรเป็นอะไร พงษ์เทพที่แม้จะผิดหวังกับณิชมนแต่เขาก็มีความสุขที่คนที่เขารักได้สมหวังเจอกับชายในฝัน ส่วนชัยวัฒน์ก็ต้องอึ้งไปเมื่อรู้ว่าณิชมนกลายเป็นคนที่มีทุกอย่าง แม้จะทำดีอย่างไรแต่ณิชมนก็ขอให้สารภาพว่าชัยวัฒน์จบอะไรมาแน่ จนเขาสารภาพว่าใช้วุฒิการศึกษาปลอมมาสมัครงานเพราะไม่อยากทำนา ตัวเขาเองนั้นจบแค่ม.6 พรรณอร และพรพรรณโมโหมากที่บังอาจมาหลอกพวกเธอ จึงคิดจะไล่ออกแต่ณิชมนขอร้องไว้และให้ทำงานในส่วนที่เหมาะสม ส่วนณิชมนตัดสินใจจะเรียนต่อให้จบที่เมืองไทย ซึ่งคุณชายบุรธัชไม่ขัดข้องขอแค่แต่งงานกับเขาเท่านั้นงานแต่งงานของคุณชายบุรธัชกับณิชมนถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ มีพงษ์เทพและวนิดาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวร่วมกับภาสและนมล ทุกคนต่างยินดีกับณิชมนที่ผ่านความลำบากมาถึงวันนี้ด้วยความดีของตัวเธอ โดยเฉพาะคุณชายบุรธัช เขารู้สึกว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ที่เขาได้เจอกับผู้หญิงที่แสนดีคนนี้ ติดตามชม ละครรักปาฏิหารย์ ได้ืทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครรักปาฏิหารย์ เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 25 ตุลาคม 2554

ชื่อไทย : รักปาฏิหาริย์

ชื่ออังกฤษ :
ละครช่อง : ช่อง 3
บทประพันธ์ : วลัย นวาระ
บทโทรทัศน์ : พิมพ์ธนา
กำกับการแสดง : รัญญา ศิยานนท์
แสดงนำ : กฤษฎา พรเวโรจน์, คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส, อเล็กซ์ เรนเดลล์, ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง
ออกอากาศ : 25 ตุลาคม 2554 – 9 มกราคม 2555
วันออกอากาศ : จันทร์ – อังคาร
เวลาออกอากาศ : 20.30 – 22.45 น.
จำนวนตอน :
ความยาวตอน :
เรทละคร :
เป็นคนแรกที่รีวิว “รักปาฏิหาริย์”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน

สมาร์ท กฤษฎา พรเวโรจน์

ม.ร.ว.บุรธัช บุริศร์ หรือ คุณชายธัช

อเล็กซ์ เรนเดลล์

ม.ร.ว.รวิภาส บุริศร์ หรือ คุณภาส

มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง

ม.ล.พิมพ์นฤมล นวพรรษ หรือ นมล

เจนสุดา ปานโต สิริสันต์

ณิชาภัทร สุธาสิน

กิก ดนัย จารุจินดา

พงษ์เทพ ประภานิช

อี๊ด ดวงใจ หทัยกาญจน์

คุณหญิงนวลแข สุธาสิน

ชุ ชุดาภา จันทเขตต์

ดาวเรือง พลพิทักษ์

ถา สถาพร นาควิไลโรจน์

ชยทัต ชุติมันต์ (รับเชิญ)

น้ำฝน สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ

ณัชชา สุธาสิน (รับเชิญ)

ฟลุท ชินพรรธน์ กิตติชัยวรางค์กูร

ม.ล.พันธ์นฤสรณ์ นวพรรษ (พันสร)

กํากับการแสดง

พัฒน์ศกรชัย โรจนานันท์

ผู้ช่วยผู้กำกับ

เขมชาติ วนทัศน์

ผู้ช่วยผู้กำกับ

นักเขียน

วลัย นวาระ

บทประพันธ์

พิมพ์ธนา

บทโทรทัศน์

โปรดักชั่น

ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช

ควบคุมการดำเนินงาน