หนึ่งด้าวฟ้าเดียว 2561

หนึ่งด้าวฟ้าเดียว

หนึ่งด้าวฟ้าเดียว (2561/2018) ในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นยุคสมัยที่สงบสุข ปราศจากศึกใหญ่มาหลายปี แต่ก็ยังมีภัยจากพวกขุนนางทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง ที่คอยรังแกประชาชนตาดำๆอยู่ แต่ก็ยังโชคดีที่มี เสือขุนทอง คอยช่วยเหลือพวกชาวบ้านจากเงื้อมมือขุนนางชั่ว และปล้นพวกเศรษฐีหน้าเลือดมาช่วยคนยากจน เป็นเหมือนวีรบุรุษของเหล่าคนยาก ขุนทองมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว และได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านทำให้พ้นเงื้อมมือของทางการมาได้ตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง ขุนทองได้รู้ข่าวเกี่ยวกับ พระสมุทรวาณิช ขุนนางใหญ่ผู้ร่ำรวยซึ่งเป็นชาวโต้ระกี่ (ตุรกี) ขุนทองรอเวลาแก้แค้นมาตลอดเพราะพระสมุทรวาณิชเคยเป็นเพื่อนรักกับพ่อของตน แต่เกิดอิจฉาริษยา หักหลังพ่อของตนและฆ่าล้างครอบครัวอย่างเหี้ยมโหด ทำให้ชีวิตตนต้องพลิกผันมาเป็นจอมโจรขุนทองอย่างทุกวันนี้ เมื่อรู้ข่าวว่าพระสมุทรวาณิชจะจัดงานแต่งงานให้ลูกสาวคนสวยชื่อ สาลิกา กับ ขุนเผด็จ ขุนนางหนุ่มรูปงาม ขุนทองเลยคิดจะจับตัวสาลิกามาเพื่อแก้แค้น แต่แผนการของขุนทองก็เกิดผิดพลาด สาลิกาโดนขุนเผด็จแทงบาดเจ็บสาหัส ขุนทองตกใจรีบพาสาลิกาหนีไปรักษาตัวในป่า ขุนทองดูแลสาลิกาจนเกิดเป็นความผูกพันกันขึ้นอย่างไม่รู้ตัว แต่ทั้งคู่ก็ต้องหักห้ามใจไว้ เพราะสาลิกามีขุนเผด็จแล้ว ส่วนขุนทองก็ท่องขึ้นใจตลอดเวลาว่าสาลิกาเป็นลูกสาวของศัตรูที่ฆ่าครอบครัวของตน สาลิกาเป็นห่วงพ่อกับแม่มาก ด้วยความสงสารขุนทองจึงพาสาลิกากลับมาส่งบ้านอย่างปลอดภัย สาลิกาพยายามไม่คิดถึงขุนทองและคิดจะเป็นภรรยาที่ดีของขุนเผด็จ แต่ขุนเผด็จกลับรังเกียจสาลิกาเพราะสาลิกาหายไปกับโจรหลายวัน เป็นหญิงมีมลทินซะแล้ว สาลิกาเสียใจที่ขุนเผด็จไม่เชื่อในความบริสุทธิ์ของตน ขุนทองรู้ข่าวจึงบุกมาหาสาลิกาชวนหนีไปอยู่ด้วยกัน ทำให้สาลิกาเปิดใจและตกลงจะใช้ชีวิตร่วมกับขุนทอง ขุนทองตัดสินใจใช้ชีวิตอย่างเงียบๆกับสาลิกาจนมีลูกด้วยกันคือ ขันทอง เวลาผ่านไปจนขันทอง 5 ขวบ พระสมุทรวาณิชก็ตามตัวเจอ และฉวยโอกาสที่ขุนทองพาลูกไปหาของป่า ก็บุกลักพาตัวลูกสาวกลับไป ขุนทองจะไปตามตัวสาลิกากลับมาแต่พระสมุทรได้ส่งสาลิกาเข้าวังไปเป็นคุณท้าวในวังแล้ว ขุนทองไม่ละความพยายามโดยบุกไปชิงตัวสาลิการะหว่างติดตามขบวนเสด็จประพาสป่าแต่ก็ไม่สำเร็จ ต่อมาไม่นานก็รู้ข่าวร้ายว่าสาลิกากระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ขุนทองเสียใจถึงที่สุด แต่ไม่เชื่อว่าสาลิกาจะฆ่าตัวตาย เลยพาขันทองไปฝากพระภิกษุที่ตนนับถือให้ช่วยดูแลขันทองแทนตน ก่อนที่ตนเองจะหาทางสืบความจริงเกี่ยวกับการตายของสาลิกา โดยขุนทองได้เข้าอาสาร่วมรบในศึกพระเจ้าอลองพญาแต่กลับถูกคนไทยด้วยกันหลอกไปให้พวกอังวะฆ่าตาย ทำให้ขุนทองไม่ได้กลับไปหาลูกอีกเลย กาลเวลาผ่านไป ในรัชสมัยของพระเจ้าเอกทัศแห่งกรุงศรีอยุธยา ไม่กี่ปีหลังจากพระเจ้าอลองพญาแห่งกรุงอังวะทรงยกทัพมาล้อมอยุธยาแต่กลับสิ้นพระชนม์ไปก่อนจะทำสงครามจบ กรุงศรีอยุธยาก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง ประเทศต่างๆ พากันส่งเรือสำเภา บรรทุกเครื่องราชบรรณาการมายังกรุงศรีอยุธยา เช่นเดียวกับเรือสำเภาจากเมืองโต้ระกี่ (ตุรกี) ที่ส่งเครื่องราชบรรณาการมาพร้อมกับ สิขันทิน ขันทีคนใหม่ ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าไปทำหน้าที่อยู่ในฝ่ายในของวังหลวง สามปีผ่านไป แมงเม่า ลูกสาวของเศรษฐี มิ่ง แห่งบ้านนางเลิง กำลังอยู่ในวัยแตกเนื้อสาว มีชายหนุ่มมากมายหมายปองสาวน้อยคนนี้ แต่ว่าแมงเม่าไม่เคยยอมตกลงปลงใจรับหมั้นผู้ชายคนใด เศรษฐีมิ่งก็ไม่สามารถบังคับแมงเม่าได้ เพราะแมงเม่ามีนิสัยแก่นแก้ว ดื้อรั้น เอาแต่ใจ ไม่ยอมคน อีกทั้ง กรมขุนวิมล (เม่า) เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงผู้มีบุญคุณกับแมงเม่าและครอบครัว เคยขอร้องไว้ว่าอย่าบังคับใจแมงเม่า เศรษฐีมิ่งจึงไม่กล้าขัดพระทัย แมงเม่ามีความสามารถอ่านออกเขียนได้ผิดจากหญิงสาวทั่วไป เนื่องจากที่บ้านเศรษฐีมิ่งเป็นโรงทำกระดาษและซ่อมแซมสมุดหนังสือต่างๆ สิ่งที่แมงเม่าสนใจเป็นพิเศษก็คือกลอักษร แมงเม่ามักจะใช้เวลาว่างศึกษาหาความรู้เรื่องกลบทเหล่านั้นจาก ม่วง พี่ชายแท้ๆ อยู่เสมอ ม่วงเป็นลูกชายคนโตของเศรษฐีมิ่ง เศรษฐีมิ่งจึงหวังจะให้ม่วงมีบุตรสืบสกุลและสืบทอดกิจการทำกระดาษของครอบครัว แต่ม่วงกับ อิน เมียสาว ไม่เคยมีความสัมพันธ์กันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะทุกครั้งอินมักจะโวยวายว่าผีของอิ่ม พี่สาวแท้ๆ ของอินที่เป็นเมียคนแรกของม่วงจะมาหักคอเธอ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงไม่ค่อยราบรื่นนัก ม่วงจึงมักจะไปพักค้างคืนอยู่กับ ยี่สุ่น โสเภณีในโรงรับชำเราเป็นประจำ ม่วงมักจะมีเรื่องราวชกต่อยกับ กล้า นักเลงหัวไม้จากบ้านริมโรงฆ้อง แต่กล้าก็มักจะแพ้ม่วงเสมอ กล้าแค้นมากและคิดจะหยามม่วงด้วยการเอาแมงเม่าเป็นเมียให้ได้ ระหว่างเที่ยวเล่นอยู่ในเมือง แมงเม่าเห็นที่หน้าร้านขายเครื่องหอมมีทหารมายืนคุ้มกันใครบางคนอยู่ จึงหยุดรอดู แต่กลับถูกพวกทหารไล่ แมงเม่าไม่พอใจมาก จึงมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน หลวงศรีขันทิน ขันทีหนุ่มที่อยู่ในร้านเครื่องหอมได้ยินเสียงเอะอะ ก็ออกมาดูและกล่าวขอโทษแมงเม่าแทนทหารของตน แมงเม่ามองการแต่งกายที่ผิดแปลกไปจากขุนนางอื่นที่ตนเคยเห็น อีกทั้งใบหน้าที่งดงาม ตัวหอมฟุ้งราวกับนางในในวัง สร้างความแปลกใจแก่หญิงสาวเพราะหลวงศรีขันทินคนนี้จะเป็นหญิงก็ไม่ใช่เป็นชายก็ไม่เชิงแต่ความจริงแล้วหลวงศรีขันทินรูปงามก็คือ ขันทอง จารบุรุษที่จำเป็นต้องปลอมตัวเป็นขันทีแทนสิขันทินที่เสียชีวิต และเข้าไปยังฝ่ายในเพื่อสืบหาสาเหตุการตายอย่างเป็นปริศนาของพ่อและแม่ของเขาในวังด้วย แมงเม่าหนีการดูตัวออกมาเดินเล่นที่ตลาด แต่หญิงสาวกลับได้พบกับ ออกญาสีหราชเดชะ ที่ถูกทำร้ายจนปางตาย ก่อนตาย ออกญาสีหราชเดชะฝากกล่องใบบอกที่สลักเสลาเป็นรูปปีกผีเสื้องดงามไว้กับแมงเม่า เมื่อแมงเม่าเปิดออกดูด้านในก็พบว่าใบบอกถูกเขียนเป็นรหัสลับที่อ่านไม่ออก แมงเม่าจึงฝากใบบอกไว้กับม่วงไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกัน กรมขุนวิมลก็ทรงให้ออกพระศรีขันทินไปรับตัวแมงเม่าเข้ามาในวังหลวงเพื่อช่วยแก้กลอักษรที่ฝ่ายตำหนักของ เจ้าจอมเพ็ญ ส่งมา แต่ไม่มีผู้ใดในตำหนักของกรมขุนวิมลสามารถแก้กลอักษรนั้นได้ กลอักษรที่เจ้าจอมเพ็ญส่งมาซึ่งมีความสลับซับซ้อนมาก แม้แต่แมงเม่าเองก็ยังจนปัญญา ขันทองเห็นกลอักษรนั้นก็ดูออกทันทีว่าเป็นกลอักษรที่ใช้วิธีการอ่านแบบตารางหมากรุก จึงช่วยสอนแมงเม่าโดยให้แมงเม่าสัญญาว่าจะเก็บเรื่องที่เขาเป็นคนสอนไว้เป็นความลับ ทำให้ขันทองกับแมงเม่าได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เจ้าจอมเพ็ญเป็นเจ้าจอมคนโปรดของพระเจ้าเอกทัศ แต่นางกลับไม่พอใจอยู่แค่นั้น เพราะนางต้องการเป็นแม่หยั่วเมืองผู้มีอำนาจสูงที่สุดในแผ่นดิน นางจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มีพระหน่อกับพระเจ้าเอกทัศ แม้กระทั่งจ่ายเงินให้ขรัวเถื่อนจากพม่าใช้วิธีการทางไสยศาสตร์เพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ โดยมี จมื่นศรีสรรักษ์ ญาติผู้น้องของเจ้าจอมเพ็ญ และ เลื่อน ข้าหลวงคนสนิท คอยปกปิดความผิดให้ ทางด้าน พระยาพลเทพ ผู้อยู่เบื้องหลังการส่งใบบอกที่เป็นความลับราชการไปให้ฝ่ายอังวะและเป็นผู้ที่ทำร้ายออกญาสีหะราชเดชะจนถึงแก่ความตาย ก็สั่งให้ ขุนแผลงฤทธิ์ สืบหากลักใบบอกจากแมงเม่าและลอบทำร้ายแมงเม่าระหว่างที่ตามกรมขุนฯเสด็จประพาสป่าแต่ขันทองก็ช่วยไว้ได้ทัน จากเหตุการณ์โกลาหลครั้งนี้ทำให้พระราชาข่านเสียชีวิต จำต้องเลือกหัวหน้าขันทีคนใหม่โดยเจ้าจอมเพ็ญเสนอให้หลวงศรีขันทินได้รับตำแหน่งนี้ ขันทองจึงได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็น พระศรีขันทิน สร้างความคับแค้นใจให้กับ ศรีมะโนราช ขันทีคู่อริของขันทองเป็นอย่างมาก พระยาพลเทพให้คนไปเผาเรือนแมงเม่าเพื่อชิงกลักใบบอก แต่ใบบอกที่ได้มากลับเป็นเพียงเพลงยาวที่ขันทองเขียนเป็นรหัสลับให้แมงเม่า หลังจากที่บ้านถูกไฟไหม้จนหมดเนื้อหมดตัว เศรษฐีมิ่งจึงตัดสินใจจะให้แมงเม่าไปอยู่ในความดูแลของกรมขุนวิมลในวังหลวงเพื่อจะได้ปลอดภัยจากคนที่ไม่หวังดี แมงเม่าจำเป็นต้องยอมเพราะไม่อยากให้ทุกคนเดือดร้อน เมื่อเข้าไปอยู่ในวังแล้ว ขันทองกับแมงเม่าก็ยิ่งได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นจากการรับใช้กรมขุนวิมล ทำให้ทั้งสองยอมรับหัวใจตัวเองว่ามีความรักให้กัน แต่ขันทองก็ยังไม่ได้สารภาพความจริงกับแมงเม่าว่าที่จริงเขาคือใคร เพราะหน้าที่ของจารบุรุษที่ยังค้ำคออยู่ ขณะที่แมงเม่าก็สับสนว่าตนเองไปรักใคร่ชอบพอกับชายที่เป็นขันทีได้อย่างไร ในวังเกิดเหตุมีจารบุรุษปลอมตัวเข้ามาในวัง พอดีกับที่ เยื้อน ทาสสาวในเรือนขันทองรู้ความลับว่าขันทองไม่ใช่ขันทีแต่เป็นชายแท้ เยื้อนรีบหนีและขอความช่วยเหลือจากศรีมะโนราช ขันทองกังวลว่าเยื้อนจะนำความเดือดร้อนมาให้จึงลักพาตัวเยื้อนไปไว้ที่ค่าย พระยาตาก ให้ช่วยคุมตัวไว้ ทางด้านศรีมะโนราชก็เอาข้อมูลจากเยื้อนไปบอก พระยากำแหง หรือ ออกญาวัง ทำให้ขันทองตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นจารบุรุษ แต่ แน่น ก็ช่วยโกหกจนขันทองรอดตัวไปได้ แต่พระยากำแหงก็ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะเขาสงสัยท่าทางของออกพระศรีฯ ที่ดูเฉลียวฉลาด ไม่เหมือนขันทีทั่วไป จึงคอยจับตาดูออกพระศรีฯ ไม่ให้คลาดสายตา ขันทองได้ช่วยแมงเม่าถอดรหัสจากใบบอกของออกญาสีหราชเดชะ และได้พบว่าเนื้อหาในใบบอกนั้นเป็นข้อมูลทางการทหารของอยุธยา และรายชื่อขุนนางที่ต้องการสวามิภักดิ์กับทางอังวะ แมงเม่าบอกขันทองว่าใบบอกนี้มาพร้อมกับกล่องใบบอกที่มีลวดลายปีกผีเสื้อ ขันทองเอะใจเพราะว่าลายปีกผีเสื้อนั้นเป็นลายประจำตัวของเจ้าจอมเพ็ญ ทั้งคู่จึงสงสัยว่าเจ้าจอมเพ็ญจะมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ ขันทองแค้นใจมาก เพราะนั่นเท่ากับว่าเจ้าจอมเพ็ญเกี่ยวข้องกับการตายของเสือขุนทองด้วย การศึกเริ่มประชิดใกล้เข้ากรุงศรีอยุธยาขึ้นทุกที แต่คราวนี้ฝ่ายอังวะไม่ได้ยกทัพใหญ่มาอย่างคราวก่อน หากมาเป็นแบบกองโจรกลุ่มเล็ก ค่อยๆ บุกตามหัวเมืองทีละแห่ง เมืองต่างๆ พากันร้องขออาวุธสนับสนุนจากกรุงศรีอยุธยา ทว่าเหล่าขุนนางใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ต่างคาดการณ์ผิด จึงไม่ยอมมอบอาวุธให้ตามที่มีการร้องขอ เพราะกลัวว่าหัวเมืองต่างๆ จะนำอาวุธเหล่านั้นกลับมาโจมตีกรุงศรีอยุธยาเสียเอง เหล่าทหารกองโจรจากกรุงอังวะจึงยิ่งรุกคืบเข้ามาใกล้ขึ้นๆ สถานการณ์ในพระนครจึงเลวร้ายลงทุกที ในที่สุด ขันทองก็ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของพ่อและแม่ของตน ภารกิจจารบุรุษของตนก็น่าจะเสร็จสิ้นแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเป็นห่วงแมงเม่า ด้วยเพราะพระยากำแหงเองก็มีใจให้แมงเม่าเหมือนกับตน ซ้ำยังชิงสารภาพรักตัดหน้าตนเสียอีก ขันทองจึงตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้แมงเม่าฟังอย่างไม่ปิดบังอีกต่อไป ขันทองบอกว่าตนไม่ใช่ขันที แต่เป็นจารบุรุษที่แฝงตัวมาสืบหาข่าวที่ฝ่ายใน แมงเม่ารู้สึกขัดเขินขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าออกพระศรีฯ ไม่ได้เป็นขันทีอย่างที่คิด แต่เป็นชายหนุ่มเต็มตัว ขันทองยังคงปฏิบัติหน้าที่ออกพระศรีขันทินไปพร้อมๆ กับพยายามข่มความโกรธแค้นชิงชังเจ้าจอมเพ็ญ ผู้ที่เป็นสาเหตุการตายของมารดาของตน โดยมีแมงเม่าคอยให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง สถานการณ์ในอโยธยาเลวร้ายขึ้นทุกวันเมื่อฝ่ายอังวะบุกมาล้อมเมืองไว้ทุกทิศทาง ผู้คนในวังหลวงต่างก็ตระเตรียมหาทางหนีทีไล่กันหากเกิดศึกสงครามขึ้น ในที่สุด ฝ่ายอังวะก็ใช้วิธีจุดไฟเผาฐานกำแพงเมืองจนกำแพงเมืองถล่มแล้วบุกเข้ามาในเมือง ผู้คนในวังหลวงต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดกันอลหม่าน ขันทองกับแมงเม่าหนีจากวังไปสมทบกับชุมนุมพระยาตากที่ระยอง ที่นั่น แมงเม่าได้พบกับม่วง อิน เศรษฐีมิ่งและครอบครัวที่เหลืออีกครั้ง ขันทองตัดสินใจร่วมทัพพระยาตากเพื่อ โดยศึกครั้งสำคัญศึกหนึ่ง ก็คือการตีเมืองจันทบูรณ์ ศึกนี้ทัพพระยาตากมีกำลังน้อยกว่าศัตรูมากนัก แต่จำเป็นต้องบุกเข้าตี ทำให้พระยาตากทรงใช้กลยุทธ “ทุบหม้อข้าว” ด้วยการให้ทหารกินให้อิ่ม แล้วทุบหม้อข้าวหม้อแกงให้แตกทั้งหมด ซึ่งถ้าชนะศึกก็จะได้กินข้าวกันที่จันทบูรณ์ แต่ถ้าแพ้ ก็ให้อดตายกันทั้งกองทัพไปซะเลย ทัพของพระยาตากมีกำลังใจถึงที่สุด เลยสามารถยึดเมืองจันทบูรณ์ได้สำเร็จ และเป็นฐานที่มั่นที่สำคัญในการกู้กรุงในเวลาต่อมา หลังจากขับไล่พวกอังวะไปได้แล้ว พระยาตากก็ยกทัพลงมายังเมืองธนบุรีศรีมหาสมุทรเพื่อสร้างเป็นพระมหานครแห่งใหม่แทนกรุงศรีอยุธยาที่เหลือเพียงซากปรักหักพัง และเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ขณะที่ขันทองก็เข้ารับราชการเป็นพระศรีสัจจา มีหน้าที่ดูแลด้านการปรับปรุงเส้นทางคมนาคมต่างๆให้สะดวกยิ่งขึ้น ขันทองกับแมงเม่าเริ่มต้นสร้างครอบครัวไปพร้อมๆ กับไพร่ฟ้าอาณาประชาราษฎร์ที่ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้งภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่แห่งกรุงธนบุรี

ดู หนึ่งด้าวฟ้าเดียว (2561) ch3plus
ชื่อไทย : หนึ่งด้าวฟ้าเดียว

ชื่ออังกฤษ :
ละครช่อง : ช่อง 3
บทประพันธ์ : วรรณวรรธน์
บทโทรทัศน์ : เอกลิขิต
กำกับการแสดง : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
แสดงนำ : จิรายุ ตั้งศรีสุข, ณฐพร เตมีรักษ์
ออกอากาศ : 25 เมษายน 2561 – 20 มิถุนายน 2561
วันออกอากาศ : พุธ – พฤหัสบดี
เวลาออกอากาศ : 20.20 – 22.50 น.
จำนวนตอน :
ความยาวตอน :
เรทละคร :
เป็นคนแรกที่รีวิว “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน

เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข

ขันทอง / ออกหลวงศรีขันทิน / ออกพระศรีขันทิน / พระศรีสัจจา

อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์

พระยาตาก / สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

เพ็ชร ฐกฤต ตวันพงค์

แน่น / ขุนจิตใจภักดิ์

เดี่ยว สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล

พระยากำแหง / ออกญาวัง

ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล

หลวงพิชัยอาสา / พระยาพิชัยดาบหัก

แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์

สมเด็จพระอัครมเหสี กรมขุนวิมลภักดี (พระองค์เจ้าแมงเม่า)

โก โกสินทร์ ราชกรม

จมื่นศรีสรรักษ์ (เพิ่ม)

สุเชาว์ พงษ์วิไล

ออกพระราชาข่าน

บอย ภาสกร บุญวรเมธี

ออกหลวงศรีมะโนราช

เต๋า สมชาย เข็มกลัด

เสือขุนทอง (รับเชิญ)

เก่ง ชัชวาล เพชรวิศิษฐ์

มังมหานรธา (รับเชิญ)

ไผ่ วิศรุต หิรัญบุศย์

เนเมียวสีหบดี (รับเชิญ)

เกม ศานติ สันติเวชชกุล

อะแซหวุ่นกี้ (รับเชิญ)

บอล วิธวัฒน์ สิงห์ลำพอง

พระองค์เจ้าเชษฐ์ (รับเชิญ)

มิ้งค์ ณัฏฐริณีย์ กรรณสูต

คุณท้าวสาลิกา (รับเชิญ)

เต๋า อดิศร อรรถกฤษณ์

พระยาจันทบูร (รับเชิญ)

มิกซ์ ราชวัติ ขลิบเงิน

พระยาเพชรบุรี (รับเชิญ)

อิชิ ธิติวัฒน์ ลิ้มพิมพ์เพราะ

ขันทอง (วัยเด็ก) (รับเชิญ)

ไข่มุก ชนัญญา เลิศวัฒนามงคล

แมงเม่า (วัยเด็ก) (รับเชิญ)

โยธิน มาพบพันธ์

พระอาจารย์ที่ได้ให้คำสอนธรรมะกับขันทองตอนขันทองยังบวชเป็นพระ (รับเชิญ)

อมรเทพ ริมดุสิต

พระเจ้าอลองพญา (รับเชิญ)

ซูม ปัญกร จันทศร

จมื่นศรีสรรักษ์ (เพิ่ม) (วัยเด็ก) (รับเชิญ)

สมบัติ วงศ์ทิพย์

ออกยาหมื่น (รับเชิญ)

กฤษณ์ พุฒรังษี

สัปเหร่ออ่ำ (รับเชิญ)

มนสิชา บุญยสิทธิโสภณ

คุณนาย (รับเชิญ)

ยุทธศักดิ์ แก้วพรม

ขุนนางอังวะ (รับเชิญ)

นิพนธ์ จิตเกิด (กบ สักปลาคราฟ)

แม่ทัพอังวะ (รับเชิญ)

กฤตภาส จันทนะโพธิ

ขุนนางอโยธยา (รับเชิญ)

จิรศักดิ์ เนินริมหนอง

แม่ทัพอังวะ (รับเชิญ)

นิธิโรจน์ สิมะกำธรณ์

ขุนนางอังวะ (รับเชิญ)

ธัญญารักษ์ สมบูรณ์

นางกำนัลอังวะ (รับเชิญ)

เอก เอกตะวัน คุ้มชาติ

ขุนนางอโยธยา (รับเชิญ)

สหภูมิ โตตรึงทรัพย์

ชาวจีนในอโยธยา (รับเชิญ)

รชต สิงห์จันทร์

ขุนนางอโยธยา (รับเชิญ)

อภิเดช ดวนใหญ่ (แบงค์ ท้องทุ่ง)

ขุนนางอโยธยา (รับเชิญ)

ชัชวาลย์ วงศ์อาจ

หลวงพ่อ (รับเชิญ)

ธนภัทร สีงามรัตน์

พ่อของคุณท้าวสาลิกา (รับเชิญ)

เบนซ์ ธงชัย มาเม่น

ลูกน้องท่านขุนที่ต่อสู้กับเสือขุนทอง (รับเชิญ)

เจบี ธนกร ทัพพะรังสี

ลูกน้องท่านขุนที่ต่อสู้กับเสือขุนทอง (รับเชิญ)

ธัญชนก ตวงมุกดา

พระยาราชมนตรี (ปิ่น) (รับเชิญ)

วรธนพจน์ ตันติวิทยากุล

ขุนนางอโยธยา (รับเชิญ)

กิติโชค ปิ่นเกตุ

ขุนนางอโยธยา (รับเชิญ)

อู๋ซัง โอภาส สุทธิเพียร

ขุนนางอโยธยา (รับเชิญ)

จารุวัธน์ ทองโบราณ

ขุนบริบาล (รับเชิญ)

ปณต สุขจิตร์

แม่ทัพอังวะ (รับเชิญ)

ธนกฤต กันหา

แม่ทัพอังวะ (รับเชิญ)

ไพฑูรย์ ส่งอุบล

ทองสุข / สุกี้ พระนายกอง (รับเชิญ)

ไพโรจน์ น้อยพลาย

ขุนนางอโยธยา (รับเชิญ)

อาท ลำนารายณ์

ทหารอโยธยา (รับเชิญ)

มงคล วงศ์ทิพยวุธ

ขุนนางอโยธยา (รับเชิญ)

ชาลี อิ่มมาก

ขุนนางอโยธยา (รับเชิญ)

เบญจา สิงขรวัฒน์

ชาวอโยธยา (รับเชิญ)

ตี๋ ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง

พระอาจารย์ (รับเชิญ)

บดินทร์ หมู่หมื่นศรี

พระอาจารย์ (รับเชิญ)

ปุ๊ จิรภัทร พานเงิน

แม่ทัพอังวะที่มีความสัมพันธ์กับยี่สุ่น (รับเชิญ)

เวนย์ ฟอลโคเนอร์

พระยาสีหะราชเดชะ (รับเชิญ)

เกรซ ภิรัญชญา คเชนทร์นุกูล

เจ้าจอมเพ็ญ (วัยเด็ก) (รับเชิญ)