ไฟอมตะ

ไฟอมตะ (2553/2010) อาทิตย์เกือบจะกลายเป็นฆาตกรปลิดชีวิตบิดาบังเกิดเกล้า ด้วยเหตุที่พ่อบันดาลโทสะใช้ปืนยิงหัววิฑิต น้องคนที่สามของเขา แม้ว่าแม่จะบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเวรกรรมของแม่ แต่สำหรับอาทิตย์แล้วมันไม่ใช่ เรื่องราววุ่นวาย ปัญหาร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัว มันเกิดขึ้นเพราะพ่อเพียงคนเดียว พ่อไม่เคยรู้จักคำว่าพอ มีเมียเล็กเมียน้อยนับไม่ถ้วน พ่อทะเลาะกับแม่ และเมื่อโกรธก็จะเฆี่ยนตีลูกจนปางตาย หากไม่คิดถึงแม่ผู้เป็นที่รักยิ่ง ไม่ห่วงว่าใครจะดูแลน้อง ๆ แล้วล่ะก็ อาทิตย์คงต้องก่อกรรมอันใหญ่หลวง สร้างตราบาปอันฝังลึกที่กี่ปีกี่ชาติก็ไม่มีวันลบเลือนได้....... ย้อนไปในวันที่เด็กชายฟ้งลืมตาดูโลก ที่กาญจนบุรี สร้างความตื่นเต้นดีใจให้แก่พ่อแม่ที่ได้ลูกคนแรกเป็นผู้ชาย ปู่ผูกดวงให้พร้อมทำนายว่า ในอนาคตฟ้งจะเป็นคนเก่ง มีบุญวาสนาทำให้ตระกูลเจริญรุ่งเรือง ครอบครัวคนจีนมักจะสอนให้ลูกทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ ฟ้งจึงมีหน้าที่ดูแลน้อง ๆ ที่คลานตามกันออกมาทุกปี แถมยังต้องทำงานบ้าน ช่วยแม่นึ่งปลาทู ทำความสะอาดปลาเค็ม เพื่อเอาไปขายในตลาด พ่อเองก็สอนให้เขารู้จักจัดสินค้า ขายของที่ร้านหน้าบ้าน แม้จะต้องทำงานหนัก แต่ฟ้งก็ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย คงเป็นเพราะความรักที่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายและญาติ ๆ มีให้อย่างเปี่ยมล้นนั่นเอง ฟ้งอยากไปโรงเรียน แต่พ่อก็ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าจะไม่มีใครช่วยทำงาน แม่จึงช่วยพูดจนพ่อก็ใจอ่อน แต่มีข้อแม้ว่าฟ้งต้องทำหน้าที่ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ฟ้งดีใจมาก เขาทำงานอย่างขยันขันแข็งตามที่รับปากไว้ ช่วยเตรียมของ ขายสินค้า แถมยังต้องเลี้ยงดูน้อง ๆ ที่กำลังอยู่ในวัยซุกซน ขนาดวิฑิตหนีโรงเรียนแล้วโดนพ่อตี พี่ใหญ่อย่างฟ้งก็เข้ามาปลอบ สอนน้องให้รู้จักรักการเรียน และพาน้องกลับไปส่งที่โรงเรียนประจำ วันตรุษจีน ฟ้งได้เงินแต๊ะเอีย 40 บาท ฟ้งเอาเงินไปฝากแม่ แต่วันที่ไปขอเงินมาซื้อขนมให้น้อง แม่กลับบอกว่าเงินหมดแล้ว แถมยังบอกว่าเงินนั่นก็คือเงินที่แม่ให้ฟ้งกินขนมอยู่ทุกวันนั่นเอง ฟ้งร้องไห้ผิดหวังเสียใจเหมือนฟ้าดินถล่มทลาย เมื่อไม่มีเงิน ฟ้งจึงแอบขโมยเงินย่าที่ซ่อนไว้ใต้ที่นอนไปซื้อขนมให้น้อง ๆ กิน พ่อรู้เข้าก็ดุด่าเฆี่ยนตีฟ้งอย่างสาหัส ฟ้งร้องไห้อย่างเจ็บปวด ทำไมพ่อจึงลงโทษเหมือนเขาไม่ใช่ลูก ภาพความรักที่พ่อเคยมีให้ในอดีต ภาพที่พ่อโอบอุ้มเล่นหัว ภาพที่พ่อพร่ำสอนในไร่ หรือแม้แต่ภาพที่พ่อเอาเขาซ้อนท้ายรถเครื่องไปดูหนังกลางแปลง ภาพความอบอุ่นเหล่านั้นมันเลือนหายไปหมดในทันที......... ตรุษจีนเวียนมาถึงในปีต่อมา ฟ้งไม่ไว้ใจแม่อีกแล้ว เขานำเงินแต๊ะเอียไปฝากธนาคารใกล้ ๆ บ้าน มันปลอดภัยที่สุดแถมยังได้ดอกเบี้ยอีกด้วย ฟ้งกอดสมุดเงินฝากเล่มแรกในชีวิตอย่างมีความสุข และตัวเลขเงินฝากก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อป้าเฮียงย้ายเข้าไปกรุงเทพฯ แล้วยกอุปกรณ์การทำถั่วคั่วให้ ย่าและฟ้งช่วยกันทำถั่วคั่วอย่างแข็งขัน ฟ้งนำถั่วคั่วไปขายที่ลานหนังกลางแปลง เสริมด้วยการขายหนังสือพิมพ์เอาไว้ปูนั่งดูหนัง ฟ้งจึงมีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุสิบสอง ฟ้งต้องเข้าไปช่วยพ่อทำไร่ คอยคุมคนงานตัดอ้อย ฟ้งมีน้ำใจให้คนงานเสมอ เขามักจะแอบเอากับข้าวของแห้งในครัวไปแบ่งปันให้คนงานอยู่บ่อย ๆ บางคราวฟ้งก็ต้องขับรถไถเอง แต่ความที่ขับรถไม่เก่งนัก ทำให้วันหนึ่งฟ้งขับรถไถไปครูดกับรถขนอ้อย พ่อโกรธมากใช้กระบอกไฟฉายอันใหญ่ขว้างใส่ฟ้ง กระบอกไฟฉายพุ่งเข้าใส่ขาของฟ้งเต็มแรง ฟ้งทั้งเจ็บปวด และคับแค้นใจ ทำไมพ่อต้องอารมณ์ร้ายขนาดนี้ ถ้ากระบอกไฟฉายมันพุ่งโดนหัวของเขา อะไรจะเกิดขึ้น นอกจากพ่อจะอารมณ์ร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ พ่อยังเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า พี่เลี้ยงและสาวใช้ในบ้านคนแล้วคนเล่าต่างก็ตกเป็นเมียของพ่อ พ่อทะเลาะกับแม่ไว้เว้นแต่ละวัน และพ่อก็มักจะระบายอารมณ์ด้วยการเฆี่ยนตีฟ้งแทน แต่ฟ้งก็ไม่เคยปริปากบ่น อะไรที่ทำให้พ่อแม่สบายใจ ทำให้น้อง ๆ มีความสุข ฟ้งจะรีบกุลีกุจอทำให้ แม้งานจะหนัก จะหิว จะเหนื่อยแสนเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม เมื่อเรียนจบมัธยมต้น ฟ้งก็เปลี่ยนชื่อเป็น อาทิตย์ เพื่อเตรียมสอบเข้าเตรียมทหาร แต่พอเห็นไถ่ลูกชายป้าเฮียง กลับจากไต้หวันมาเยี่ยมบ้าน ชุดเครื่องแบบนักเรียนของไถ่ดูโก้ สร้างแรงบันดาลใจให้อาทิตย์ไม่น้อย และพ่อเองก็มีความคิดจะให้ลูกชายคนโตมีความรู้มาช่วยกิจการ พ่อจึงตัดสินใจส่งอาทิตย์ไปเรียนที่ไต้หวันบ้าง นั่นจึงเป็นจุดหักเหของชีวิตที่ฟ้งยินดียิ่ง เพราะได้ออกไปจากสภาพซ้ำซากจำเจที่ทำร้ายจิตใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไปสู่การผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่ ไต้หวัน ที่นั่น อาทิตย์ต้องเรียนภาษาจีน ปรับตัวกับการอยู่คนเดียว ต้องต่อสู้ อดทน และที่นั่น เขายังได้พบกับ..เคลลี่ เขาพบเธอครั้งแรกที่โต๊ะปิงปอง เคลลี่สวยน่ารัก ไม่ถือตัว มีน้ำใจไมตรี และคอยช่วยเหลือคนต่างถิ่นอย่างอาทิตย์ เคลลี่พาอาทิตย์ไปเที่ยวตลาด ไปเที่ยววัดในวันตรุษจีน ชวนกันขี่จักรยานชมธรรมชาติ ความประทับใจจึงเกิดขึ้น และกลายเป็นความรักทีละเล็กละน้อย เคลลี่เป็นรักแรก และเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อาทิตย์ตั้งปณิธานว่าจะแต่งงานด้วย อาทิตย์สอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน เขาเติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ กำยำ มีเสน่ห์ไม่น้อย อาทิตย์เล่นกีฬาเก่ง เขาได้เป็นนักกีฬาเหรียญทอง และก็มีเคลลี่อยู่ชิดใกล้ แต่อาทิตย์กลับยังมีความเป็นห่วง คิดถึงแม่ และน้อง ๆ เพราะน้อง ๆ เขียนจดหมายมาเล่าว่า ที่บ้านของเขานั้นยังคงขาดความอบอุ่นอยู่เช่นเดิม พ่ออารมณ์ร้ายมากขึ้น ใช้งานและลงโทษน้อง ๆ อย่างหนัก แม่ก็ยังบ่นด่าทะเลาะกับพ่อเป็นประจำ เมื่อจากบ้านไป 3 ปี อาทิตย์จึงกลับมาเยี่ยมบ้าน และได้พบกับเหตุการณ์เดิม ๆ พ่อทะเลาะกับแม่เรื่องผู้หญิงอื่น อาทิตย์ทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง และเมื่อพ่อเริ่มใช้กำลังทำร้ายเขา อาทิตย์ก็จำต้องตอบโต้ด้วยการชกพ่อเป็นครั้งแรก แต่แล้วเขาเองกลับพลาดท่า กลายเป็นกระสอบทรายให้พ่อถลุง สายใยพ่อลูกจึงขาดผึง เขาจึงจำใจลาพ่อด้วยน้ำตา และตั้งใจว่าจะไม่กลับมาบ้านนี้อีก และนับจากนี้ พ่อจะไม่มีอิทธิพลต่อชีวิตเขาอีกต่อไป เขาต้องกลับไปเรียนต่อและต้องพึ่งตนเอง แม่เอาเครื่องประดับมาให้อาทิตย์ไปขายเพื่อเป็นค่ากินอยู่และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิตย์จึงเกิดความคิดที่จะทำธุรกิจเล็ก ๆ ขึ้น เขาร่วมหุ้นกับจิตรกร เพื่อนคนไทยที่เรียนด้วยกัน ช่วยกันกว้านซื้อเครื่องประดับสวย ๆ จากโรงรับจำนำ แล้วเอาไปขายที่ไต้หวัน กิจการของเขาไปได้สวย มีกำไรงาม อาทิตย์กลับเมืองไทยอีกหลายครั้งในช่วงปิดเทอม เขาติดต่อร้านค้าหลายแห่ง เพื่อสั่งซื้อสินค้าจากไต้หวันมาขายในเมืองไทย แม้จะเหน็ดเหนื่อยที่ต้องขึ้นรถเมล์ เดินท่อม ๆ ทั้งวัน แต่อาทิตย์ก็ไม่ย่อท้อ เพราะเขาตั้งใจจะหาเงินเป็นทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่แคนาดา อาทิตย์นำจักรยานเก่า ๆ ที่รุ่นพี่ที่เรียนจบทิ้งไว้มาซ่อมแซม แล้วขายให้แก่นักศึกษาใหม่ เขาเก็บเงินได้จนซื้อมอเตอร์ไซค์ได้คันหนึ่ง แต่ก็โดนโกง เมื่อนายเฉินเหลยเจ้าของห้องเช่าขอยืมเงิน โดยหลอกให้อาทิตย์นำรถไปจำนำ สุดท้ายเจ้าของบ้านก็หายตัวไป มาสืบรู้ภายหลังว่าเป็นนักพนันตัวยง แถมยังไม่ใช่เจ้าของบ้านที่แท้จริงอีกด้วย อาทิตย์เจ็บใจเป็นที่สุด เสียเงินไม่เท่าเสียรู้คน เมื่อเรียนจบ พ่อก็เรียกให้เขาไปเป็นผู้จัดการโรงงานอาหารสัตว์ที่พ่อเปิดใหม่ ด้วยความรัก ความห่วงใยแม่ เขาจึงตัดสินใจกลับเข้าบ้านและทำงานให้พ่อ แต่แล้วความขัดแย้งก็เกิดขึ้นอีก คราวนี้ เขาตัดใจทิ้งโรงงานของพ่อ และเดินจากมาอีกครั้ง พ่อโกรธมากและประกาศตัดเป็นตัดตาย และในที่สุดโรงงานของพ่อก็ประสบภาวะขาดทุน ก่อหนี้สินรุงรัง และก่อไฟแค้นที่ไม่มีวันดับ ในใจของพ่อ อาทิตย์มุ่งหน้าไปสู้ชีวิตด้วยตนเองที่กรุงเทพฯ เขาทำธุรกิจส่งออกแต่ก็เป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่เขาก็สู้ไม่ถอย บางวัน..ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว บางวัน..ยังต้องเชิดหน้าทระนงแม้ไม่มีใครให้กู้เงิน แต่บางวันก็ตื้นตันใจยิ่งเมื่อเปิดจดหมายของเคลลี่ที่ส่งมาจากไต้หวันและพบว่ามีเงินดอลล่าสอดอยู่ และวัน..ที่มีความสุขที่สุด คือวันที่เคลลี่ตกลงใจแต่งงานด้วย และย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย เขามีใจมุ่งมั่นที่จะสร้างครอบครัวให้เป็นปึกแผ่น เขาจึงทำงานหนัก ธุรกิจดีขึ้นเรื่อย ๆ ได้เป็นตัวแทนขายซอสมะเขือเทศ ส่งปลาทูน่ากระป๋องไปขายยังสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันกิจการส่งออกแป้งมันก็เจริญก้าวหน้า ทำให้บริษัทมีเงินหมุนเวียนเป็นกอบเป็นกำ แต่แล้ว ความเป็นไปในครอบครัวที่เมืองกาญจน์กลับถึงขีดวิกฤต พ่อยักย้ายเงินกงสีซึ่งเป็นเงินของครอบครัวไปใช้จ่ายส่วนตัว แม่จึงต้องเอาเงินเก็บออกมาใช้ พ่อหาว่าแม่ยักยอกเงินไว้จึงทะเลาะกันใหญ่โต ที่ร้ายที่สุดก็คือพ่อพาเจ๊แอ๊ด เมียใหม่สาวสวย ฐานะดี เข้ามายกย่องในบ้าน เหตุการณ์ในบ้านเริ่มเลวร้ายมากขึ้น เมื่อเจ๊แอ๊ดแสดงอำนาจบาตรใหญ่ แสดงกิริยาไม่ดีต่อแม่ วิฑิตน้องชายคนที่สามอึดอัดใจเป็นที่สุด เขาทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง แต่ก็พลาดท่าเมื่อพ่อเอาปืนยิงหัว อาทิตย์รู้ข่าวน้องรักถูกพ่อยิง เขาเจ็บแค้นมาก ขับรถห้อตะบึงไปเมืองกาญจน์ด้วยไฟลุกโชน เขาไม่เข้าใจว่าพ่อยิงลูกในไส้ของตนได้อย่างไร พ่อทำร้ายลูก ๆ ตั้งแต่ยังเด็ก และรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนครั้งนี้ถึงกับเอาชีวิต ดังนั้นหนทางเดียวที่จะยุติเรื่องราวเลวร้ายทั้งปวง คือพ่อต้องยุติชีวิตลงด้วยเช่นกัน แต่ระหว่างทาง ภาพชีวิตทุกภาพได้ย้อนกลับมา ภาพความรัก และ ความผูกพันภายในครอบครัว อาทิตย์สับสนใจยิ่ง และแล้วคำว่า ผู้ให้กำเนิดก็แล่นเข้ามาจับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และเข้ามาหยุดอารมณ์อันพลุ่งพล่านของเขาได้ทันท่วงที หยุด..ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายอย่างมิอาจแก้ไข อาทิตย์ใจสงบลง และตั้งสัจจะกับตัวเองว่า ต่อไปนี้เขาจะไม่มีวันทิ้งน้อง ๆ และแม่ เขาจะสร้างบ้านใหม่ บ้านที่ทุกคนจะได้มาอยู่รวมกัน สร้างความรัก ความสุข สร้างครอบครัวอย่างที่ทุกคนเฝ้าฝัน และ เขาจะเป็นผู้สานฝัน โอบอุ้ม ดูแล ให้ความรักแก่ทุกคนด้วยตัวเอง แม้วันนี้จะยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่อาทิตย์เชื่อว่า ความมุ่งมั่น ความอดทน ความไม่ย่อท้อจะทำให้เขาสร้างอาณาจักรอมตะในฝันของเขาได้สำเร็จ โชคดีที่ปาฏิหาริย์ก็มีจริง วิทิตรอดชีวิตแต่กลายเป็นคนที่มีร่างกายที่ไม่สมบรูณ์ดังเดิม แม่ยอมหย่ากับพ่อ และพาน้อง ๆ เข้ามาอยู่รวมกันในบ้านเช่าหลังเล็ก ๆ ของอาทิตย์ที่กรุงเทพฯ แต่ชีวิตก็ไม่ได้เป็นดั่งฝัน เขาเริ่มระหองระแหงกับเคลลี่ จนเกิดความเข้าใจผิดที่ไม่อาจคลี่คลาย และจบลงด้วยการหย่าร้าง อาทิตย์ปวดร้าวและอ้างว้าง ภาพรักอันงดงามปลิวหายไปกับสายลม ไกลเกินกว่าจะไขว่คว้า ต่อจากนี้ไปเขาต้องยืนหยัดต่อสู้เพียงลำพัง อาทิตย์จึงมุทำงานอย่างหนักเพื่อให้ลืมรักร้าว แต่แล้วเขาก็ได้พบกับ นรี นักธุรกิจสาว เธอสวย ฉลาด ทำงานเก่ง ให้คำแนะนำเรื่องธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทั้งสองจึงกลายเป็นคนใกล้ชิดที่เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ความสัมพันธก็ไม่ได้ยั่งยืน อาทิตย์เจ็บปวดอีกครั้ง แต่เขาก็ได้พบ แมว สาวสวยนัยน์ตาคมขำ เธอช่างเอาอกเอาใจ มองโลกในแง่ดี แต่อาทิตย์ไม่ก็กล้ารักใครอีก อาทิตย์ประสบความสำเร็จในธุรกิจ มีความมั่นคงในชีวิต แต่นี่มิใช่ความภาคภูมิใจที่เขาปรารถนา ครอบครัวที่อบอุ่นต่างหากที่เขาเฝ้าฝันมาตลอดทั้งชีวิต เขารับน้อง ๆ คนละแม่ที่พ่อทิ้งขว้างมาดูแล เขาแบ่งงานให้ทุกคนทำตามความถนัด จัดสรรรายได้อย่างยุติธรรม รวมถึงวางแผนอนาคตที่มั่นคงให้น้อง ๆ และหลาน ๆ ทุกคน อาทิตย์เติมสิ่งที่ขาดให้กับทุกคน แต่ทำไม..ในหัวใจของเขาเองกลับยังอ้างว้างนัก.. แต่แล้วเคลลี่ก็กลับมาเยี่ยมเขาในวันหนึ่ง เธอตั้งใจมาขอบคุณที่แม้แยกทางกันไปแต่อาทิตย์ยังช่วยดูแลพ่อและแม่ของเธอเป็นอย่างดี และก็เธอตกใจที่เห็นภาพรักหวานในอดีตยังคงติดอยู่ที่เดิม ทำให้เธอรู้ว่า แท้จริงแล้ว เขายังคงคิดถึงเธออยู่ทุกลมหายใจ เคลลี่เข้าใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และแม้เส้นทางรักอาจไม่หวนคืน แต่เธอและเขาต่างก็เข้าใจกัน วันที่แม่ป่วยและจากไป เป็นวันที่อาทิตย์เศร้าโศกเสียใจเป็นที่สุด เขาย้อนนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตและครอบครัวของเขา ยังคงเหลือปมระหว่างเขาและพ่อที่ยังไม่คลี่คลาย อาทิตย์รู้ดีว่าพ่อยังคงใช้อารมณ์ และใช้ชีวิตแบบเดิม และเขาก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรพ่อไม่ได้ อาทิตย์จึงตัดสินใจบวชเพื่อทดแทนพระคุณแม่ ผู้เป็นที่รักยิ่ง และตั้งจิตอโหสิกรรมทุกอย่างที่พ่อเคยทำ ถึงอย่างไร พ่อก็คือผู้มีพระคุณในชีวิตของลูก เส้นทางชีวิตของอาทิตย์จะเป็นอย่างไรต่อไป..เขาไม่อาจรู้ แต่เขารู้ว่า เขาจะไม่ย่อท้อ เขาจะต่อสู้อย่างเข้มแข็ง.... ไฟแห่งความดีงามในใจของเขาจะไม่มอดไหม้ และจะเป็น ไฟอมตะ เช่นนี้ตลอดไป โปรดติดตามชม ละครไฟอมตะ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30-21.30 น. ทางช่องโมเดิร์นไนท์ทีวี ไฟอมตะ เริ่มตอนแรก 10 เมษายน 2553

เป็นคนแรกที่รีวิว “ไฟอมตะ”

ยังไม่มีรีวิว

นักแสดงและทีมงาน

นาท ภูวนัย

ลุงเส้น

เจมี่ บูเฮอร์

สมหะทัย (นิด)

ธนภัทร ฐิติพลาธิป

วิสุทธิ์ (ฝุก)

ชลนสร สัจจกุล

ไข่เหวย เหยา

ชอปเปอร์ กัณฐ์อเนก นัยนาประเสริฐ

อาทิตย์ (ติ้นฟ้ง) อายุ 11-16 ปี

ราชรัฐ บุญสุขขัง

ติ้นฟ้ง อายุ 5-10 ปี

ภูริวัต บุญมุสิโก

ติ้นฟ้ง อายุ 3-4 ปี

กํากับการแสดง