2547
เลดี้เยาวราช (2548/2005) เลดี้เยาวราช เป็นเรื่องราวของ หยกผกา หรือหยก ฝังใจมาตลอดว่า กิมฮุยพ่อของเธอเกลียดลูกผู้หญิงอย่างเธอกับฮวง พี่สาว รักแต่จื้อลูกชายคนโตคนเดียว หยกตั้งปณิธานว่าจะไปจากบ้าน ไปทำงานในร้านอาหารที่อังกฤษแล้วเก็บเงินกลับมาเปิดร้านติ่มซำแข่งกับเตี่ยผู้ได้ชื่อว่าเป็นยอดฝีมือติ่มซำไร้เทียมทานแห่งถนนเยาว ราชให้ได้ อี้เค็งพยายามสอนให้หยกอดทนมาโดยตลอด จนกระทั่งหยกถูกไล่ออกมาจากบ้านขณะที่ฝนตกกระหน่ำ แถมกิมฮุยยังตามมาทุบตี ผู้ที่เข้ามาช่วยหยกไว้คืออรรณพหลานยายของคุณหญิงอัจฉราวดีเจ้าของที่ดินและตึกแถวย่านเยาวราช กิมฮุยตัดพ่อตัดลูกกับหยก และสั่งห้ามไม่ให้หยกไปงานแต่งงานของฮวง อรรณพเป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ เป็นลูกชายคนเดียวของอัปสรวิไลนางเอกภาพยนตร์สาวใหญ่ที่ยังสวยและมีเสน่ห์ยั่วยวน อัปสรวิไลเคยผิดหวังในชีวิตรักและชีวิตแต่งงาน เพราะเธอเลือกแต่งงานกับอาทรผู้ชายที่มีฐานะทางสังคมด้อยกว่า ความแตกต่างกันทำให้ทั้งคู่เข้ากันไม่ได้ต้องหย่าขาดกันตั้งแต่อรรณพอายุ 3 ขวบ อัปสรวิไลทุ่มเทความรักให้กับอรรณพเต็มที่ อรรณพเองก็รักแม่มาก ยอมทำตามใจแม่ทุกอย่าง จนกระทั่งอัปสรวิไลรู้เรื่องที่อรรณพคบหาอยู่กับหยก เธอจัดการจับคู่อรรณพกับสร้อยสุภางค์หลานสาวของเอมอรเพื่อนรัก อรรณพไม่ก้าวร้าวรุนแรงกับแม่แต่ก็ไม่ยอมแต่งงานกับสร้อยสุภางค์ อัปสรวิไลรู้จักกับแจ๊คกี้ หนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน ลูกชายเถ้าแก่ลิ้มเศรษฐีชาวจีนที่ตั้งรกรากอยู่ในลอนดอน อัปสรวิไลยอมปล่อยตัวปล่อยใจให้แจ๊คกี้เพราะคิดว่าเสน่ห์ของเธอจะมัดใจแจ๊คกี้ได้ โดยไม่รู้ว่าแจ๊คกี้แอบหมายตาหยกอยู่ แจ๊คกี้เจอกับหยกที่ลอนดอน ที่ร้านอาหารของราตรีภรรยาใหม่ของเถ้าแก่ลิ้ม ท่าทางเด็ดเดี่ยวและฝีมือการทำอาหารที่เยี่ยมยอดของหยก ทำให้แจ๊คกี้ปักใจว่าหยกคือผู้หญิงที่เขาใฝ่หามาตลอดชีวิต อัปสรวิไลต้องการตามแจ๊คกี้ไปลอนดอนจึงได้บังคับให้อรรณพไปลอนดอนด้วย อรรณพอยากใกล้ชิดกับหยกจึงได้สอบชิงทุนไปเข้าคอร์สฝึกว่ายน้ำระดับสูงที่ลอนดอน ด้านหยกเองก็ได้เข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในลอนดอน ทั้งสองคนมีความสุขมากเมื่อได้อยู่ด้วยกันที่ลอนดอน เถ้าแก่ลิ้มต้องการให้แจ๊คกี้แต่งงาน เพราะต้องการให้แจ๊คกี้ลดความร้ายลงบ้าง แต่แจ๊คกี้กลับมองว่าการมีครอบครัวจะทำให้พ่อไว้ใจยอมปล่อยให้เขาเข้าไปดูแลทรัพย์สินทั้งหมดแทน แจ๊คกี้ตัดสินใจแต่งงานกับอัปสรวิไล เขาคิดว่าเมื่อได้สมบัติแล้วจะทิ้งอัปสรวิไลไปแต่งงานกับหยก อัปสรวิไลรู้เรื่องอรรณพกับหยก จึงได้บอกให้สร้อยสุภางค์ตามมาอยู่ที่ลอนดอนด้วย ทั้งคู่ช่วยกันเล่นงานพร้อมทั้งกีดกันหยกกับอรรณพให้แยกจากกัน ด้านแจ๊คกี้เองก็แอบบีบบังคับให้อรรณพเลิกคบกับหยก ด้วยการส่งคนไปทำร้ายอัปสรวิไล อรรณพถูกกดดันหนักจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ หยกเข้าใจผิดคิดว่าอรรณพจะกลับไปแต่งงานกับสร้อยสุภางค์ จึงได้ตัดสัมพันธ์กับอรรณพเด็ดขาด หยกลาออกจากร้านอาหารของราตรีไปเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองในลอนดอน พร้อมทั้งติดต่อซื้อร้านอาหารในศูนย์การค้าของคุณหญิงอัจฉราวดีที่สร้างตรงข้ามกับร้านของกิมฮุยไว้อีกร้านหนึ่งด้วย หลังจากจื้อเรียนจบเป็นวิศวกรก็ได้ย้ายออกจากบ้านมาอยู่คอนโดฯ กับรักร้อยแฟนสาว จื้อติดพนันฟุตบอลและมีหนี้สินมากมาย จื้อถูกตามทวงหนี้ด้วยชีวิต กิมฮุยช็อกเข้าโรงพยาบาลเมื่อรู้เรื่องจื้อ หยกออกเงินค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด แต่ให้ฮวงเป็นคนออกหน้า แจ๊คกี้บอกรักหยก หยกตัดสินใจบอกปฏิเสธไป แจ๊คกี้ประชดด้วยการไปมีสัมพันธ์กับสร้อย สุภางค์เย้ยอัปสรวิไล อัปสรวิไลถึงกับตัดขาดจากแจ๊คกี้ และระหว่างที่อัปสรวิไลต้องผ่าตัดรักษาตา อาทรก็ได้มาดูแลอัปสรวิไลตลอดเวลา ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้ ตัดสินใจจะกลับไปใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้งทางภาคเหนือ อรรณพตามมาปรับความเข้าใจกับหยก หยกเข้าใจถึงความรักที่อรรณพมีต่ออัปสรวิไล จึงได้ตัดสินใจกลับไปง้อกิมฮุย ด้วยการทำซาลาเปาไส้หยกไปให้ หลังจากที่อาทรกับอัปสรวิไลเดินทางไปภาคเหนือได้ไม่นาน หยกกับอรรณพก็ได้แต่งงานกัน
ริษยา (2547/2004) วังอโยธยาหรือวังเจ้ามีหม่อมชุลี เป็นเจ้าของวังและไม่ชอบสุงสิงกับใคร มีเพียงคนรับใช้ที่สนิทคือ อบสวาทและลูกสาว ม.ร.ว.วรรศิกา ผู้มีนิสัยเก็บกดเพราะถูกเลี้ยงให้อยู่ในกฎระเบียบประเพณีอย่างเคร่งครัด ที่วังอโยธยา หม่อมชุลีตั้งแง่เกลียดชังชนก เมื่อรู้ว่าชนกเป็นลูกของชวนชื่น เพราะคิดว่าชวนชื่นส่งลูกชายมาเพื่อเปรียบเทียบกับลูกชายของตน ชนกได้เจอกับคุณหญิงวรรศิกาแต่ก็ไม่ได้ถูกใจเพราะเห็นว่าเป็นคนที่เงียบขรึม คุณชายหริพันธ์ได้เป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาวรรณคดีอังกฤษ เขาเป็นที่ชื่นชอบของนิสิตสาวรวมทั้งชนนี น้องสาวของชนก หริพันธ์ได้เล่าถึงชนนีลูกสาวอีกคนของชวนชื่นให้หม่อมชุลีฟัง ทำให้หม่อมชุลีอยากเจอชนนี และเมื่อมีโอกาสได้เจอหน้ชนนีหม่อมชุลีก็คิดแผนร้ายขึ้นในใจ ติดตามต่อได้ใน ริษยา
ยุทธการปราบเมียน้อย (2547/2004) เรื่องราวความสนุกสนาน ของชีวิตคู่ที่ไม่ลงเอยระหว่าง “สุพล” (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) และ “บุษบา” (จันทร์จิรา จูแจ้ง) เมื่อภรรยาแอบจับได้ว่าสามีสุดที่รัก แอบปันใจไปให้สาวอื่น ยุทธการของเมียหลวงต่างๆนานา ที่เตรียมเอาไว้จัดการกับเหล่าเมียน้อยจึงเกิดขึ้น ท้ายสุดปัญหาระหว่างเมียหลวงและเมียน้อยจะจบลงแบบใด เรื่องราววุ่นๆ จะลงเอยกัน แบบไหน ติดตามชมได้ในละคร “ยุทธการปราบเมียน้อย”
แผนรัก แผนร้าย (2547/2004) ที่วังศิวาลัย ขณะที่อาการป่วยของ ม.ร.ว. นภดารา ศิวาวงศ์ (เดือนเต็ม สาลิตุลย์) กำลังทรุดหนัก เธอต้องการจะทำสิ่งหนึ่งก่อนสิ้นลม คือการสารภาพบาปที่เคยทำไว้ให้ ม.จ. นภัสรพี (สมบัติ เมทะนี) ท่านพ่อของเธอได้รับฟัง คือ เมื่อสิบห้าปีก่อน นภดารา ลอบรักกับ กานต์ (เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร) เด็กในบ้าน ทั้งคู่ปิดบังเป็นความลับไม่ให้ใครรู้นอกจาก แม่นมชื่น (นภาพร พงสกุล) แต่ไม่นาน กานต์เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถ และนภดาราพบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ ด้วยความกลัวว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียง นมชื่นจึงร่วมมือกับหมอ พานภดาราหลบไปคลอดที่โรงพยาบาลซอมซ่อแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ นภดารา กับ นมชื่น คิดว่าจะหาทางกลับมารับลูกสาวกลับไปภายหลัง จึงได้ทิ้งทารกน้อยนั้นไว้พร้อมกับจดหมายฝากฝัง,สร้อยกางเขน และแหวนประจำตระกูล ติดตามต่อได้ใน แผนรักแผนร้าย
ภพเสน่หา (2547/2004) “ ตะวัน” หนุ่มจิตรกรฝีมือดีเรียนจบด้านจิตรกรรมมาหมาดๆ ต้องการมีธุรกิจของตัวเองร่วมกับ “ศิลา” เพื่อนสนิทโดยทั้งสองคิดจะหาซื้อบ้านเก่าเพื่อดัดแปลงเป็นแกลลอรี่ภาพเขียน ในที่สุดตะวันกับศิลาก็พบกับบ้านเก่าในฝันที่ลงตัวที่สุด ที่สามารถดัดแปลงเป็นแกลลอรี่ขายภาพเขียนและที่พักในขณะเดียวกัน ตะวันรู้สึกชอบและถูกใจบ้านหลังนี้มาก ครั้งแรกที่ก้าวเข้าสู่ตัวบ้าน เขาเริ่มจะได้กลิ่นไม้หอมแป้งร่ำแบบโบราณหอมชื่นใจทำให้เขาต้องมาพาศิลามาดู ด้วยตา และก็น่าแปลกใจที่ศิลาเองก็รู้สึกอย่างเดียวกับตะวัน ทั้งสองจึงตกลงซื้อบ้านทันที โดยไม่ลังเล แต่ทั้งสองก็รู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นจนกระทั่งศิลาทนไม่ได้ ต้องสอบถามจากเพื่อนบ้าน จึงรู้ว่าเจ้าของบ้านพยายามขายบ้านให้กับหลาย คนแล้ว แต่ใครๆ ก็อยู่ที่นี่ไม่ได้ ชาวบ้านต่างร่ำลือว่าเป็นบ้านผีสิง ศิลานำความไปบอกกับตะวัน แต่ตะวันเห็นเป็นเรื่องเหลวไหล ติดตามต่อได้ใน ภพเสน่หา
เจ้าสาวสลัม (2547/2004) ขมาเทพ มีความกดดันลึกๆและขาดความอบอุ่นอย่างรุนแรง เขาถูกส่งไปเรียนต่างประเทศและกลับมาบริหารธุรกิจอันใหญ่โต ขมาเทพมีเพื่อนสนิทชื่อว่า กริน (ไมเคิล พูพาร์ท) ทั้งสองมีนิสัยต่างกันมาก กรินเป็นคนรักสนุก ร่าเริงและไม่เคยมีความทุกข์กับใคร ส่วนขมาเทพเป็นคนเงียบขรึม ขมาเทพเคยมีความรักมาถึงสามครั้ง คนแรกคือ ดวงรัตน์ (ปิยะธิดา เล็กมณีโชติ) ที่ขมาเทพจับได้ว่าเธอตั้งครรภ์ทั้งที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์กัน คนที่สองเป็นญาติห่างๆคือ หม่อมราชวงศ์หญิงจิตาภา (ชลิตา เฟื่องอารมย์) ที่ขมาเทพแน่ใจว่าคุณหญิงแต่งงานกับเขาเพราะต้องการให้เขาช่วยเหลือด้านการเงิน คนที่สามคือ เพียงพร (อภิสรา ฉวีวงษ์) สาว สวยที่หล่อนพยายามรวบรัดหาวิธีมีสัมพันธ์กับขมาเทพแล้วหลอกว่าตนท้อง แล้วขมาเทพก็จับได้ว่าเพียงพรไม่ได้ท้อง และเขาก็ต้องผิดหวังในความรักอย่างรุนแรงทั้งสามครั้ง และหมดความไว้ใจในความรัก เขาเชื่อว่าทุกคนมาทำดีกับเขาเพราะเขาคือเศรษฐีผู้ร่ำรวยเท่านั้น ขมาเทพเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆในสลัมโดยมี ครูสมพร และ คุณรัชนี เป็นผู้ประสานงาน โดยครูสมพรดูแลเด็กหญิงคู่หนึ่งคือ ข้าวเม่า (เพ็ชรลดา เทียมพ็ชร) อายุ20ปีและ ข้าวตู อายุ17ปี ซึ่งข้าวเม่าเป็นลูกที่ นางแก้ว เก็บมาเลี้ยง ส่วนข้าวตูเป็นลูก นายโห้ กุ๊ยติดยาบ้าที่พยายามที่จะลวนลามข้าวเม่าจนครูสมพรและนางแก้วต้องคอยกีดกัน ติดตามต่อได้ใน เจ้าสาวสลัม
คุณแม่รับฝาก (2547/2004) สิบพันหนีไกลจากกรุงเทพฯเมื่อวันที่หัวใจแตกสลายกลับมาห้วยเสือ ซุกซ่อนตัวเองกับความรักในสภาพของชายหนุ่มหน้าดุ ยิ้มยาก และไม่ยอมผูกพันกับหญิงคนไหน เรียมจันทร์สาวน้อยหน้าใส จอมวุ่น หอบลูกสาวหนึ่งคนกับหมาอีกหนึ่งตัวมาถึงห้วยเสือในวันหนึ่ง ชีวิตใหม่กำลังจะเริ่มต้นกันอีกแล้วที่นี่ว่ากันว่า หญิงสาวคนหนึ่งได้เดินทางผ่านมาพร้อมกับลูกสาวตัวน้อย ใครๆเรียกหล่อนว่า "คุณแม่" และหล่อนก็เต็มใจกับบทบาทคุณแม่รับฝากนั้นอย่างเต็มใจ เรียมจันทร์เดินทางไปบ้านห้วยเสือหานันทวรรณลำพัง เพื่อหนีความวุ่นวาย น่าเบื่อของปัญหาหัวใจจากอังกูร และเรื่องราวที่เธอประสบอยู่ ระหว่างทางเกิดอุทกภัยฝนตกหนักและน้ำท่วม เรียมจันทร์ พบ สิบพัน ในสภาพที่เซอร์มากๆ เธอนึกว่าสิบพันเป็นคนขับรถสองแถวของห้วยเสือ ได้มีปากเสียงกัน เพราะความดื้อรั้นของเรียมจันทร์ จึงถูกสิบพันทิ้งให้ขึ้นรถคนอื่น รถที่เรียมจันทร์นั่งมาเกิดเสียกลางทาง สิบพันจึงต้องย้อนกลับมาช่วยชาวบ้านและเรียมจันทร์มาที่ห้วยเสืออย่าง ปลอดภัย ติดตามชมได้ในละคร “คุณแม่รับฝาก”
คู่รักพลิกล็อค (2547/2004) ครอบครัวของ”วุ้นเส้น”เป็นครอบครัวที่อบอุ่นไปด้วยความรัก และความครื้นเครง มีสมาชิกทั้ง 6 คนขอโดยมี ”เจ๊สอง” ที่ทุกคนในครอบครัวต้องยำเกรง เพราะนิสัยที่ห้าว เพราะแม้แต่ “เฮียเก๊า” สามียังต้องยอมซูฮก ในขณะที่เฮียเก๊าเข้าข้างลูก แต่เจ๊สองจะดุลูกเสมอๆ ”วุ้นเส้น”สาวสวยเก๋ลูกสาวคนโตมีบุคลิกขัดกับใบหน้าโดยสิ้นเชิง เพราะดูห้าว และทะมัดทะแมงเหมือนผู้ชาย ทำให้พ่อกลุ้มใจมากคิดว่าลูกสาวเป็น”ทอม” แถมยังมีสาวมาติดอีกด้วย ส่วน ”ก๋วยจั๊บ” และ”เซี่ยงไฮ้”เป็นลูกชายคนที่ 2 และ 3 ทั้งคู่เป็นฝาแฝดที่หน้าไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไร และมักจะสร้างความปวดหัวให้ทุกคนในบ้านเสมอ เจ๊สองชอบจับให้ทั้งคู่ทำอะไรคล้ายๆกันโดยที่ทั้งคู่ไม่ชอบ ส่วนตัวป่วนประจำบ้านก็คือ ลูกชายคนสุดท้องที่ซนยังกับลิงชื่อ ”อุด้ง” ซึ่งฉลาดเป็นกรด ทางด้านครอบครัวของวัชรานั้นตรงกันข้ามกับครอบครัวของวุ้นเส้นโดยสิ้นเชิง เพราะครอบครัวเขาเป็นผู้ดีเก่า จึงมีระเบียบแบบแผน โดยเฉพาะ ”คุณสมร” ที่เจ้าระเบียบ เข้มงวด และดุมาก เขาเลี้ยงลูกแบบโบราณมี ”คุณธงชาติ” สามีข้าราชการบำนาญที่ค่อนข้างขรึม ”วัชรา” ลูกชายคนสุดท้องสุดหล่อจะกลัวพ่อมาก วัชรามีท่าทางกระเดียดไปทางผู้หญิงเพราะเติบโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมจากบรรดาพี่สาว ”คุณสาหริ่ม” พี่สาวคนโตเจ้าระเบียบเป็นครูสอนการเรือน ส่วนพี่สาวอีกคนชื่อ ”วารี” สนิทกับวัชรา มากเป็นคนร่าเริง สดใส และช่างพูด มีร้านขายของ Hand-Made คุณนายสมรอดหวังจะอุ้มหลานสักคน แต่ก็ต้องกลุ้มใจกับลูกชายที่ดูติ๋มเหมือนกับผู้หญิง อีกทั้งพี่สาวทั้งสามก็ไม่มีใครมีทีท่าจะแต่งงานเลยสักคน และยังห่วงว่าวัชรา จะเป็นเกย์เพราะไม่มีวี่แววว่าจะสนใจสาวๆเลยแถมยังมีเพื่อนเป็นสาวประเภทสองอีก ครอบครัวของเจ๊สองสนิทสนมกับครอบครัวของคุณนายสมรมาตั้งแต่สมัยแม่ของแม่ของแม่ เจ๊สอง และคุณนายสมรจึงสนิทกันมาก ทั้งคู่กลุ้มใจเรื่องลูกชายและลูกสาวว่ามีพฤติกรรมเบี่ยงเบนจึงปรึกษากันว่าจะให้ทั้งวัชรา และวุ้นเส้นแต่งงานกันเสียเลย เมื่อทั้งคู่รู้ก็พยายามบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับข้อเสนอ วุ้นเส้นนั้นมี”พราวใส” ลูกสาวเจ้าของโรงงานที่เธอทำงานอยู่มาติดพัน วัชรานัดวุ้นเส้นมาคุยกันโดยมีพราวใสและพงษ์ศักดิ์ตามไปด้วย แต่ก็ลงเอยด้วยการทะเลาะกัน โดยพราวใสกับพงษ์ศักดิ์นั้นไม่มีใครยอมใคร ส่วนวัชรากับวุ้นเส้นก็ไม่ยอมจะแต่งงานกันเด็ดขาด สองคุณแม่วางแผนสร้างความคุ้นเคยให้กับวัชราและวุ้นเส้น โดยให้ฝ่ายชายไปหาฝ่ายหญิงก่อน คุณนายสมรสามารถบังคับให้วัชรายอมแต่งงานกับวุ้นเส้นได้ เพราะวัชราเป็นคนที่ไม่มีปากมีเสียงผิดกับวุ้นเส้นที่โวยวาย เจ๊สองก็เลยใช้แผนจะฆ่าตัวตายเพราะอยากมีหลาน วุ้นเส้นเห็นแม่ใช้ไม้นี้ก็ยอมตามใจไปก่อน งานนี้เจ๊สองอดชื่นชมในผลงานของตัวเองไม่ได้ วุ้นเส้นกลุ้มใจมากที่โดนแม่บังคับให้เลือกชุดเจ้าสาว โดยสาหริ่มนัดให้วุ้นเส้นไปรับที่สำนักพิมพ์ เพราะเขาจะเอาต้นฉบับไปส่ง วุ้นเส้นชวนน้องพราวไปด้วย ไปเจอวัชราอยู่กับศักดิ์ ทำให้วุ้นเส้นเข้าใจผิดว่าทั้งคู่เป็นคู่เกย์กัน “เนตรนภิส” นัดวัชราไปเจอที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งและเอาของฝากมาให้เพราะเธอแอบรักวัชรามานาน วัชราเล่าเรื่องที่เขาต้องแต่งงานกับวุ้นเส้นให้เธอฟัง เนตรนภิสกลับถึงบ้านก็อาละวาดพังข้าวของ เธอบอกตัวเองว่าเธอจะไม่มีวันยอมให้วัชราไปเป็นของใครโดยเด็ดขาด คุณนายสมรและเจ๊สองปรึกษาเรื่องเรือนหอของลูกๆ แต่ทั้งคู่ก็ตกลงใจว่าจะไปอยู่ที่คอนโดฯที่วัชราซื้อเอาไว้แต่ยังผ่อนไม่หมด เจ๊สองเลยบอกว่าจะจ่ายส่วนที่เหลือเอง และเหตุการณ์ที่ทั้งคู่ไม่อยากไปอยู่ที่บ้านของอีกฝ่ายหนึ่งก็เพราะเห็นว่าถ้าต้องไปอยู่บ้านของคนใดคนหนึ่งมีหวังชีวิตคงไม่สงบสุขแน่นอน เมื่อถึงวันที่วุ้นเส้น ต้องไปบ้านวัชรา “สุกี้” น้าชายรูปหล่อที่ไปอยู่อเมริกาสิบกว่าปีจึงไปเป็นเพื่อนหลานสาว อุด้งแอบขึ้นรถไปด้วยโดยไม่มีใครเห็น เมื่อไปถึงบ้านวัชรา สุกี้ไปเดินเล่นในสวนและเดินชนกับสาหริ่มล้มแว่นตาหลุด สุกี้เห็นหน้าชัดๆก็นึกชอบขึ้นมาทันที ก่อนที่สาหริ่มจะโวยวายอะไร ทุกคนในบ้านก็วิ่งมาดูทันที่ว่าเกิดอะไรขึ้น พร้อมทั้งอุด้งด้วย วันนั้นอุด้งทำตัวดีตลอดแถมยังให้วัชราช่วยสอนภาษาอังกฤษให้ด้วยเพราะใกล้สอบแล้ว สาหริ่มบังคับให้วุ้นเส้นหัดแกะสลักผัก จัดจานและทำอาหาร เมื่ออาหารขึ้นโต๊ะไม่มีใครกล้าชิม แต่วัชราตักอาหารที่วุ้นเส้นทำแถมเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยทำให้ทุกคนกล้าชิมแต่ก็ต้องบ้วนทิ้งเพราะรสชาติไม่ได้เรื่อง วันแต่งงานของทั้งคู่มาถึง งานตอนเช้าผ่านไปอย่างราบรื่นเพราะน้องๆของวุ้นเส้น ทำตัวดีเรียบร้อยแล้วก็มาถึงงานเลี้ยงกลางคืนที่โรงแรม วุ้นเส้นกระวนกระวายใจเพราะไหนจะต้องคอยระวังกระโปรงแต่งงานที่ยาวมากและเกือบสะดุดล้มหลายครั้ง ดีที่วัชราช่วยเธอจับเอาไว้ได้ ไหนจะต้องคอยมองหาน้องๆตัวแสบที่หายไปไหนก็ไม่รู้ และไหนจะรำคาญพราวใสที่เอาแต่ยืนซับน้ำตาอยู่ข้าง ๆ พงษ์ศักดิ์ที่ก็ยืนทำตาปริบ ๆ เหมือนกัน สุกี้นั้นไม่ยอมห่างสาหริ่มเลย เนตรนภิสมางานนี้ด้วย เธอได้พบเจ้าสาวของวัชราเป็นครั้งแรก เธอมาในชุดแสนหวาน ที่ใครๆก็มองจนเหลียวหลัง เนตรเข้ามาอวยพรวัชราด้วยมาดสาวน่ารัก แต่พอหันมาอวยพรวุ้นเส้นก็ทำหน้าตาเกลียด และอาฆาตใส่ทำให้วุ้นเส้นสงสัยในพฤติกรรมของเธอ ส่วนความสัมพันธ์ของสุกี้และสาหริ่มก็ราบรื่นดี สาหริ่มดูสวยและทันสมัยขึ้น จนวารี แซวทุกวันว่าสงสัยจะได้จัดงานแต่งงานกันอีกคู่เสียแล้ว แต่ในที่สุด ”ศจี” แฟนเก่าสุกี้ซึ่งเป็นคนที่ทำให้เขาต้องหนีไปอยู่อเมริกานานนับสิบปีก็กลับมาขอคืนดีกับเขาเพราะเลิกกับสามีแล้ว ทำเอาสาหริ่มต้องหนีไป สุกี้กลุ้มใจมากจึงไปปรึกษาวุ้นเส้น และวัชราบอกว่าช่วยคุยกับสาหริ่มให้ จึงนัดให้มาคืนดีกับสาหริ่มที่บ้านเจ๊สอง ศจีตามมาราวีอีก คุณนายสมรและเจ๊สองเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตคู่หนุ่มสาวอีก โดยวางแผนกันบอกว่าคุณธงชาตินั้นเป็นโรคหัวใจจะอยู่ได้อีกไม่นาน และอยากอุ้มหลานก่อนตายทำให้วัชราและวุ้นเส้นกลุ้มใจมาก ทั้งคู่ตกลงกันว่าน่าจะลองมีอะไรกันสักครั้งเพื่อทุกคนในครอบครัวจะได้สมหวังแต่ติดที่ว่าทั้งคู่ไม่เคยมีประสบการณ์จึงต้องไปปรึกษากับเพื่อน ๆ และลองกันหลายวิธีแต่ก็ไม่ได้ผล สุดท้ายวัชราจึงปรึกษาเฮียเก๊า เขาขอยืมรถของวุ้นเส้นเพราะว่ารถของเขาไปเข้าศูนย์ หลังจากไปส่งวุ้นเส้นที่ทำงานก็ขับรถไปบ้านวุ้นเส้น พอดีมีรถตัดหน้าจึงเบรคอย่างแรงจนลิ้นชักเปิด เขาจึงเห็นคู่มือการมีลูกและคู่มือการคุมกำเนิด จึงคิดว่าวุ้นเส้นรู้ดีทุกอย่างว่าต้องทำยังไงแต่แกล้งทำไม่เป็น เพราะจริง ๆ แล้ววุ้นเส้นไม่ได้รักเขา ไม่ได้อยากมีลูกกับเขานั่นเอง หลังจากวันนั้นวัชราก็หมางเมินกับวุ้นเส้น โดยที่เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร วัชราและวุ้นเส้นออกงานด้วยกันในงานครบรอบนิตยสารที่วัชราทำงานอยู่ วุ้นเส้นสวยเฉิดฉายจนชายต้องมองพราวใสมาอวยพรทั้งคู่ให้มีความสุข และพงษ์ศักดิ์ก็ยอมรับว่าวัชราและวุ้นเส้นเหมาะกันมาก เนตรนภิสเข้ามาแกล้งให้วุ้นเส้นเข้าใจผิดกับ วัชรา เมื่อกลับถึงบ้านทั้งคู่ทะเลาะกันจนฟิวส์ขาด และวุ้นเส้นก็ตกเป็นของวัชราอย่างสมบูรณ์ในทางพฤตินัย วุ้นเส้นโกรธวัชรามากเธอไม่ยอมพูดจากับเขาเลยแม้จะขอโทษอย่างไรก็ตาม วุ้นเส้นยอมรับกับใจตัวเองว่าความจริงเธอนั้นรักเขา แต่เหตุการณ์ที่ถาโถมเข้ามาก็ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกกันด้วยความเข้าใจผิดกันในหลาย ๆ เรื่องแต่ก็ปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด แต่แล้วเนตรนริสก็เข้ามาในชีวิตพวกเขาและเธออีกครั้งโดยขอมาอยู่กับวัชราเพราะทะเลาะกับแม่เลี้ยงและพ่อของเธอ วุ้นเส้นใจอ่อนยอมให้อยู่ด้วย จากนั้นเนตรนภิสก็ทำให้ทั้งคู่เข้าใจผิดกันตลอดเวลา วุ้นเส้นรู้ว่าตัวเองนั้นท้องได้ 2 เดือน เธอดีใจมากรีบกลับมาบอกวัชรา แต่เห็นวัชรากำลังปลอบประโลมเนตรนภิสสอยู่หมดความอดทน และบอกให้เขาเลือกระหว่างเธอและเนตรนภิส เนตรนภิสใช้มารยาหญิงแกล้งกระโดดตึกฆ่าตัวตาย วุ้นเส้นรู้ทันจึงท้าให้โดด แต่วัชรามองว่าวุ้นเส้นใจดำ วุ้นเส้นจึงเก็บเสื้อผ้าจะกลับไปอยู่บ้าน วัชราตามไปง้อวุ้นเส้น เนตรนภิสไม่ยอมแพ้หยิบมีดแทงกัมปะนี วัชราแย่งมีดจากเนตรนภิสจนถูกมีดบาดมือ ก่อนจะส่งตัวเนตรนภิสให้ตำรวจ เรื่องราวตอนจบจะเป็นอย่างไรต่อนั้น วุ้นเส้นกับวัชราจะเข้าใจกันเหมือนเดิมหรือไม่ และเด็กตัวน้อย ๆ ซึ่งเป็นลูกของวัชรากับ วุ้นเส้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ต้องคอยติดตามชมความชุลมุนวุ่นวายที่แสนจะอบอุ่นนี้ได้ในละครเรื่อง “คู่รักพลิกล็อก”
สะใภ้ภูธร (2547/2004) คุณประสงค์ นายธนาคารใหญ่และคุณดวงดาวมีลูกสาว คือ แจ่มฟ้าชอบเรียบด้านเกษตรเพราะมุ่งมั่นจะเป็นชาวสวนชาวไร่ ความคิดของเธอสวนทางกับพ่อโดยสิ้นเชิงเพราะไม่อยากให้ลูกสาวลำบากเหมือนตนใน อดีตแต่แจ่มฟ้าปฏิเสธงานธนาคาร ทำให้คุณประสงค์โกรธจัดจึงยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ทำงานแบงค์ต้องแต่งงานกับ ม.ล.สิทธิสกล ลูกชายของเพื่อนรัก ม.ร.ว.สกลสิทธิ์และเจ้าคำชื่น แต่แจ่มฟ้าปฏิเสธจึงโดนไล่ออกจากบ้าน ม.ร.ว.สกลสิทธิ์มี หนี้สินมากจึงขายวังให้คุณประสงค์ ทำให้ม.ล.สิทธิสกลเกลียดคุณประสงค์ และคุณแจ่มมาก เมื่อถูกตัดหางปล่อยวัด แจ่มฟ้าจึงไปขอความช่วยเหลือจากพ่อของตระการเพื่อนรัก โดยได้แบ่งสวนให้เช่าซื้อ หลังจากขายวังไปแล้ว ทำให้ม.ล.สิทธิสกลเครียดจัดล้มป่วยลงร่างกายซีกขวาเคลื่อนไหวไม่ได้คุณ ประสงค์และคุณดวงดาวมาเยี่ยมทุกวันแต่ไม่เคยได้เยี่ยมทั้งสองไม่ละความ พยายาม ทำให้ม.ล.สิทธิสกลไม่ไหวจึงให้การุณย์เพื่อนสนิทหาที่ทางต่างจังหวัดเพื่อ ที่จะไปทำไร่ แต่ท่านพ่อและเจ้าแม่ไม่ยอมไปด้วยทำให้ม.ล.สิทธิกลย้ายไปอยู่ที่ไร่กับส่า งเต็งและเอื้องคำ พี่เลี้ยงที่ดูแลกันมาตั้งแต่เล็ก
จับสะใภ้ใส่สกุล (2547/2004) จับสะใภ้ใส่สกุล เป็นเรื่องราวของ ชนน์กมล หนุ่มนักเรียนนอกตระกูลไฮโซ ที่ร่ำรวยมหาศาลมีเชื้อสายของผู้ดีเก่า ทำให้เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทันทีที่เขากลับมาถึงเมืองไทย คุณหญิงจันทร์กระจ่างฟ้า แม่ของชนน์กมล กลับต้อนรับเขาด้วย การยัดเยียดคู่หมั้นคู่หมายให้กับเขา และสาวเจ้าผู้นั้นคือ อรอนางค์ (อร) นางเอกสาวชื่อดังแ แต่เบื้องหลังเธอคือนางเอกขาวีน เพื่อนๆ ในก๊วนของ ชนน์กมล เมื่อรู้ข่าวต่างเห็นด้วยและสนับสนุน ชนน์กมล เป็นการใหญ่เพราะดาราสาวอย่างอรเป็นนางเอกในฝัน แต่ ชนน์กมล กลับไม่คิดเช่นนั้น ปัญหาคือ เขาไม่ได้รักอรเลยแม้แต่นิด ในขณะที่ ชนน์กมล กำลังขบคิดปัญหาอันหนักอก เพื่อน ๆ ของเขาแนะนำให้ไปผ่อนคลายความเครียดที่สปาแห่งหนึ่ง และที่นี่เองที่ชนน์กมล มีโอกาสได้พบกับหมอนวดสาวสวยคนหนึ่ง เธอคือ ฟ้าประทาน (ฟ้า) เธอเป็นหมอนวดฝีมือดีอันดับหนึ่งเกียรติบัตรของเธอการันตีมาจากวัดโพธิ์ที่เธอได้ร่ำเรียนมา แต่หนแรกที่เจอฟ้า เพื่อนทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าฟ้าเป็นหมอนวดแบบว่า…ขายอย่างอื่นด้วยนอกจากฝีมือ เขาจึงโดนฟ้าเกลียดขี้หน้าชก. แต่ด้วยเสน่ห์ในตัวผู้หญิงคนนี้กลับทำให้ชนน์กมล สนใจที่จะรู้จักเธอให้มากกว่านี้ ฟ้าเป็นคนพื้นเพมาจากจังหวัดสกลนคร สาย แม่ของเธอมีอาชีพรับจ้างทำนา ส่วนเดือนน้องสาวอายุ 17 ที่ชื่นชอบการร้องเพลงลูกทุ่งเป็นชีวิตจิตใจก็อยู่ในวัยแรกรุ่นช่วยดูแลแม่ แทนฟ้าที่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ฟ้ามีความฝันว่า สักวันเธอจะเก็บเงินได้มากพอที่จะนำไปไถ่ที่นาของแม่ที่โดนยึดไป ในขณะที่ฟ้ามาทำงานในสปาแห่งนี้ฟ้าก็มี มนัส ลูกชายเศรษฐีมาเฝ้าตามจีบเธออยู่เหมือนกัน แต่สำหรับฟ้าแล้วเธอรับมนัสเป็นได้แค่เพื่อนชายที่ดีของเธอคนหนึ่งเท่านั้น เอง ฟ้ายังไม่ยอมเปิดใจรับใครให้เข้ามา เพราะเธอเองก็เชื่อใน เรื่องรักแท้เช่นเดียวกัน ชนน์กมล ถูกคุณหญิงแม่และอรรุกเร้าเรื่องการแต่งงานมากขึ้นทุกวัน จนในที่สุด ชนน์กมล ก็พลาดหลุดปากแก้ปัญหาไปว่าเขามีเมียอยู่แล้วคนหนึ่ง ระหว่างอยู่ที่อเมริกาและกำลังจะเดินทางกลับมาอยู่กับเขา คุณหญิงแม่แทบตกเก้าอี้ ที่ลูกชายมีเมียไม่ยอมบอก เขาจึงหันมาที่ฟ้า ครอบครัวของฟ้าจำเป็นต้องหาเงินก้อนหนึ่งเพื่อไปจ่ายดอกเบี้ย ฟ้าไม่มีเงินกลุ้มอกกลุ้มใจ เมื่อชนน์กมล เอาข้อเสนอของเขามาให้ฟ้าขบคิด ฟ้าคิดสะระตะดูแล้วมันก็แค่ละครตบตาฉากหนึ่งในระยะเวลาแค่หนึ่งปีที่จะยอมเป็นเมียนอกกฎหมายให้กับเขา ฟ้าจึงตอบตกลง ชนน์กมล จึงไม่รอช้าที่จะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงหมอนวดมือทองจากแดนอีสานเป็นสาวนักเรียนนอกมีชาติตระกูลในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อประตูคฤหาสน์พัฒนศิรวงศ์เปิดออก…พร้อมกับการต้อนรับของครอบครัวใหม่ ฟ้าหิ้วกระเป๋าเดินทางเข้าไปในบ้านพร้อมกับเดือนน้องสาวของเธอที่ต้องมาอุปโลกน์เป็น ไฮสคูลเกิร์ลคู่กับพี่สาว (เป็นข้อตกลงของเธอกับ ชนน์กมล ที่ต้องเอาน้องสาวมาอยู่ด้วย เพื่อกันเขาทำอะไร เธอ)..การเข้ามาของฟ้าดูเหมือนจะช่วยแก้ปัญหาให้ ชนน์กมล ได้… แต่มีหรือว่าแม่ผัวกับอรอนค์จะยอมรับลูกสะใภ้หน้าใหม่ได้ง่าย ๆ ชีวิตความเป็นอยู่ในคฤหาสน์ไม่มีทางสงบสุขแน่ ฟ้าต้องเจอกับการเกลียดชังจากทั้งคุณหญิงแม่ อรอนงค์ (ที่มักแวะเวียนเข้ามาสร้างความปั่นป่วนให้กับเธอ) บรรดาคนใช้ที่เป็นพวกสู่รู้หัวเดียวกับนายที่พากันตั้งแง่กับฟ้านำขบวนโดย นังหวี คนใช้คู่บุญของคุณหญิงแม่ รวมไปถึง วี น้องชายจอมเฮี้ยวของ ชนน์กมล ถึงแม้ว่าทุกคนในคฤหาสน์พัฒนศิรวงศ์จะไม่ให้การต้อนรับฟ้า แต่ก็ยังดีที่ฟ้ายังมี เกรียงไกร พ่อของ ชนน์กมล ที่ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งตัวซ้ำยังมีปัญหาเรื่องการพูดให้ความเอ็นดูฟ้าเหมือนลูก แต่บทบาทของคุณเกรียงไกรในบ้านก็แทบจะช่วยอะไรฟ้าในคฤหาสน์นี้ไม่ได้มากนักเพราะ ท่านป่วยเป็นอัมพาตมานานจนคุณหญิงกุมอำนาจเบ็ดเสร็จภายในคฤหาสน์นี้ทั้งหมด ในระหว่างที่ฟ้าต้องปกปิดฐานะที่แท้จริงของตัวเองและน้องไม่ให้ใครรู้ ฟ้าก็เริ่มได้ใกล้ชิดกับชนน์กมล จากครั้งแรกที่เธอเกลียดขี้หน้าหมอนี่ ความรักก็เริ่มก่อตัว ท่ามกลางทุกสายตาที่เฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของเธอ… หลายครั้งที่ฟ้าเกือบจะพลาดท่าเสียทีความลับเกือบแตกว่าที่จริงเธอก็แค่หมอนวดเท่านั้น แต่เธอก็สามารถเอาตัวรอดมาได้ ในขณะที่มนัสก็ตามมาป้วนเปี้ยนตามตื้อรักจากฟ้าอยู่เสมอเป็นอุปสรรคให้ฟ้า ต้องปวดหัวรวมทั้งเป็นข้อกังหาให้ ชนน์กมล ออกอาการหึงหวงใส่ฟ้าอยู่เนือง ๆ และเพราะความเก่งกาจในฝีไม้ลายมือการนวดของฟ้าที่มักจะเข้าไปนวดให้กับพ่อของ ชนน์กมล อาการอัมพาตของเกรียงไกรจึงค่อย ๆ หายดีขึ้นเป็นลำดับ ในขณะที่ความแก่นเซี้ยวของเดือนก็เริ่มทำให้วีละลายพฤติกรรมกวน ๆ จากที่เคยตั้งแง่กับฟ้าก็เริ่มแปรพักต์มาเข้าข้างฟ้าอีกคน แต่แล้วเมื่อเกือบจะครบกำหนดสัญญาว่าจ้างระหว่างฟ้ากับ ชนน์กมล พร้อม ๆ กับที่หัวใจของคนทั้งเริ่มแบ่งบาน ฟ้าเกิดพลาดท่าถูกหญิงแม่และอรจับได้ว่าแท้ที่จริงแล้วฟ้าไม่ได้เป็นนัก เรียนนอก เป็นเพียงแค่หมอนวดในสปาที่ย้อมแมวหลอกทุกคนมาตลอด ชนน์กมล ถูกยื่นคำขาดให้แต่งงานกับอรอนงค์เท่านั้น… ส่วนฟ้าจำต้องเก็บกระเป๋าเดินทางกลับสู่สกลนครพร้อมเงินไปไถ่ถอนที่นาคืนให้แม่ ใกล้ถึงวันแต่งงานระหว่างอรกับ ชนน์กมล ข่าวถูกส่งออกไปทั่วประเทศเพราะเป็นการแต่งงานทอล์กออฟเดอะทาวน์ระหว่างไฮโซหนุ่มกับดาราดัง มันถึงเวลาแล้วที่ ชนน์กมล จะต้องตัดสินใจจริง ๆ ซะที เกี่ยวกับรักแท้ที่เขาต้องการท่ามกลางแรงเชียร์จากน้องชายและพ่อที่หายจาก อาการอัมพาต จนลุกขึ้นมาปฏิวัติรัฐประหารกุมอำนาจเบ็ดเสร็จในบ้านคืนจากคุณหญิง…ไม่รอช้า ชนน์กมล รีบเดินทางไปตามหาฟ้า เพื่อขอเธอแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและกฎหัวใจ… สุดท้าย ชนน์กมล จะง้องอนให้ฟ้า แต่งงานกับเขาสำเร็จหรือไม่ ต้องติดตามชมในละคร “จับสะใภ้ใส่สกุล”
ท่านชายต้มยำกุ้ง (2547/2004) เป็นเรื่องของท่านชายปารุสก์(แพท พัสสน)ทายาทหนุ่มรูปงามของเจ้าแสงตะะวัน(ไพโรจน์ ใจสิงห์)และเจ้าสุมณฑา(ดวงใจ หทัยกาญจน์)มหาเศรษฐีพันล้านที่มีกิจการส่วนมากอยู่ทางเหนือ ท่านชายปารุสก์เรียนจบปริญญาโทด้านธุรกิจ แต่ยามว่างจะแอบไปเรียนการทำอาหารมาจากหลายประเทศเพราะตอนเด็กจะสนิทกับท่านอาคือหม่อมหัตถา(จิ้ม ชวนชื่น) ซึ่งเป็นนักชิมระดับประเทศ ติดตามต่อได้ใน "ท่านชายต้มยำกุ้ง"
ครูไหวใจร้าย (2547/2004) ในปี 2547 โรงเรียนดรุณรักษ์ เป็นโรงเรียนที่คนในอำเภอกิ่งจันทร์แดง คุณครูเจ้าระเบียบแห่งโรงเรียนดรุณรักษ์ ที่ไม่มีใครในอำเภอกิ่งจันทร์แดงไม่รู้จัก ที่ใครต่อใครต่างให้ฉายานามไว้ว่า ครูไหวใจร้าย อายุอานามของครูไสวก็ปาเข้าไป 60 ปีแล้ว ใกล้จะเกษียณ ชื่อเสียงของครูไหว เป็นที่โจษจันเป็นอย่างมากในเรื่องของความเข้มงวด เจ้าระเบียบ และดุมากเสียจนใครต่อใครในอำเภอกิ่งจันทร์แดงต่างพากันเกรงกลัว แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าในอีกมุมหนึ่งของครูไหว หรือ ครูไหวใจร้าย นั้นเป็นคนที่ใจบุญมากๆ ไม่ฆ่ากระทั่งยุงแม้แต่ตัวเดียว และเมื่อถึงวันพระ ครูไหวจะเป็นคนแรกเสมอที่ไปถึงวัด ครูไหวจะมีกิจวัตรประจำวันที่เที่ยงตรงอยู่ตลอดเวลา ครูไหวจึงกลายเป็นนาฬิกาที่มีชีวิตประของทุกคนในอำเภอไปแล้ว และถ้าวันไหนมีเหตุสุดวิสัยจริงๆ ที่ทำให้กิจวัตรของครูไหวคลาดเคลื่อน ก็จะส่งผลให้ชีวิตประจำวันของใครต่อใครที่ใช้นาฬิกามีชิวิตครูไหวคลาดเคลื่อนเช่นกัน ย้อนไปปี 2512 ตอนนั้น ครูไสวได้ทำงานให้นายซาบารุ เป็นผู้ล่ามภาษา และครูไสวก็ชอบซาบารุตั้งแต่แรกพบ โดยมีแสงเป็นกามเทพ ไสวก็ไม่สามารถบอกความจริงให้พ่อได้ ว่าซาบารุเป็นชาวญี่ปุ่น โดยโกหกว่าเป็นชาวเกาหลี เนื่องจากพ่อของไสวไม่ชอบชาวญี่ปุ่น เคยทำให้แม่ไสวตาย และพ่อของไสวรู้ความจริงว่า ซาบารุเป็นชาวญี่ปุ่นก็โกรธหนักมากจนเข้าโรงพยาบาล ซาบารุจึงได้ขอโทษพ่อของไสว พ่อของไสวให้อภัยคนญี่ปุ่นก็เปิดทางให้รักกันได้ และสิ้นใจเสียชีวิต แต่ซาบารุก็กลับญี่ปุ่นไปแล้ว ไสวก็เสียใจมาก ทำให้จำใจลืมเรื่องของซาบารุ ตั้งปณิธานว่าจะไม่รักใครนอกจากซาบารุ และไสวก็ทำงานเป็นครูโรงเรียนกิ่งจันทร์แดง เดินตามรอยพ่อ นับแต่นั้นเป็นต้นมา
หัวลำโพง ฮาเฮ สเตชัน (2547/2004) หัวลำโพง คือ ชุมทางของคนทั้งประเทศที่ผ่านไปมาวันละหมื่นๆ หรือเป็นแสนในช่วงเทศกาลสำคัญ คนส่วนใหญ่ที่มาเหยียบกรุงเทพฯ แล้วมักจะหลงเสน่ห์ทั้งในทางดีและทางเลว ไม่อยากกลับบ้านนอก ทั้งๆ ที่ไม่มีที่จะอยู่ก็จะดันทุรังจรจัดอยู่ที่หัวลำโพงมายี่สิบปี โดยไม่มีใครไล่ไปได้ ดังเช่น ลุงฝืด ซึ่งเข้ากรุงเทพฯ มารุ่นเดียวกับ ลุงเก๋า ลุงเก๋าถีบตัวจากคนจรจัดมาเป็นเจ้าของธุรกิจ SME ซุ้มกาแฟโบราณกลายเป็นคนฐานะดี แต่ลุงฝืดยังคงดูฝืดเหมือนเดิม นิวาสสถานของแกคือเซฟแชร์ หรือใต้เก้าอี้นั่งพักในสถานีที่แกแอบผลิตขึ้นเอง มีที่หลบหลับนอนใต้เก้าอี้ สามารถย้ายไปมาได้ตามโอกาส บางครั้งแกไปเอาชุดที่พวกพนักงานรถไฟบริจาคให้มาใส่ทำเดินเก๋ มีคนยกมือไหว้เป็นทางคิดว่าเป็นพนักงานรุ่นใหญ่ แกเลยยิ่งวางมาดหนักขึ้น มั่วให้คำปรึกษาผิดๆ ถูกๆ กับผู้มาซักถามบ่อยๆ แต่ถึงกระนั้นแกก็เป็นคนดีมีน้ำใจ สิ่งที่ได้รับจากการทำงานของแกจึงมักเป็นคำขอบใจไม่ใช่เงิน แกคิดใหม่ทำใหม่ตามนโยบายรัฐบาล ไปคุ้ยขยะหาพวกขวดและกล่องกระดาษไปขายหาเงินเลี้ยงชีพ มีรายได้พอสมควร มีเงินเก็บไม่น้อย แต่แกก็ยังทำเป็นว่าชั้นยากจนน่าสงสารต่อไป เพื่อได้ของฟรีจากคนอื่น ยามว่างแกจะขดตัวอยู่ใต้เก้าอี้แอบฟังเรื่องราวของชาวบ้าน แล้วเอามาเปิดประเด็นผิดบ้างถูกบ้างที่สภากาแฟของลุงเก๋าทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย ลุงเก๋าผิดกับลุงฝืดตรงที่แกเป็นคนตรงไปตรงมาเรื่องงาน ถือคติว่างานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข คำขอบใจไม่รับ รับเงินสดเท่านั้น แกจึงเป็นเพื่อนซี้ปึ้กและซี้ซั้วของลุงฝืดแล้วแต่โอกาส เช่น ถ้ากาแฟเหลือหลังสถานีปิด แกให้กินฟรี แต่ก่อนเวลาสถานีเปิด ต่อให้เงินค่ากาแฟของลุงฝืดขาดไปสลึงเดียวก็อย่าหวังจะได้กินฟรี ส่วนเงินที่ใครกู้ยืมเงินแกต้องมีดอกเบี้ยขึ้นลงตามกระแสดอกเบี้ยธนาคาร ถ้าดอกไม่ส่งแกจะเอาดอกเบี้ยไปทบต้น เพราะแกเป็นคนตรงไปตรงมา แกมีหลานสาว (ความจริงเป็นเมียน้อย) มาช่วยเสิร์ฟและชงชาคนหนึ่งชื่อ แป๋วแหวว ลุงฝืดสนใจจะจีบแป๋วแหวว แต่ลุงเก๋าเล่นงาน พวกไส้อั่วแม่ค้าส้มตำและ รุ่งอรุณ พนักง่านซุ้มจัดหางานมาเจ๊าะแจ๊ะขอกาแฟฟรีกินจากลุงเก๋า ก็เจอแป๋วแหววด่าเพราะหึง แต่ทุกคนเข้าใจว่าลุงเก๋าหวงหลานสาวมาก และหลานสาวก็หวง ลุงเก๋ากับลุงฝืดมีศัตรูร่วมกันอยู่หลายราย รายแรกคือ ไอ้ร้อย แต่ยศจริงเป็นนายสิบ ตำรวจประจำสถานีรถไฟ ซึ่งคอยไล่ไม่ให้ลุงฝืดไปเร่ร่อนรบกวนผู้คนที่ผ่านไปมา คอยสำรวจควบคุมราคากาแฟของลุงเก๋าที่มักฉวยโอกาสขึ้นราคาตามกระแสฟีเวอร์ต่างๆ และต้องคอยปราบปราม ไอ้โจ๋ ที่พยายามตั้งตัวเป็นนักเลงโตเรียกค่าคุ้มครองของใครก็ตามที่เร่ร่อนและหากินอยู่ที่หัวลำโพง จัดหางานเถื่อน จัดทัวร์เถื่อน และร้อยยังต้องคอยช่วยเหลือและจับกุม เจ้าจอน เด็กจรจัดที่ขึ้นรถไฟมาตามพ่อเพราะคิดว่ากรุงเทพฯ เล็กเหมือนบ้านนอก แต่ 3 ปีผ่านไปก็ไม่เคยตามพ่อเจอ ร้อยสงสารแต่ก็ต้องทำตามระเบียบและกฎหมาย จึงพยายามจับไอ้จอนส่งสถานสงเคราะห์ แต่ไอ้จอนก็หนีกลับมา จับส่งขึ้นสถานีรถไฟกลับบ้าน มันก็กลับมาอีก จนร้อยต้องเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้มันยึดอาชีพรับจ้างขัดรองเท้าเลี้ยงชีวิตต่อไป ไอ้จอนมักทะเลาะกับลุงฝืดเรื่องแย่งกันรื้อขยะ ซึ่งมันอ้างว่าเป็นอาชีพเสริมของมัน ลุงฝืดอ้างกับร้อยและทุกคนว่าแกกำลังรอน้องสาวที่บ้านนอกมารับ แต่ทุกคนส่ายหน้าไม่เชื่อ เพราะลุงเก๋าบอกว่าแกรอมา 20 ปีแล้ว ยังไม่เห็นมีใครมารับ แต่ท้ายสุดของเรื่องมีคนมารับแกจริง ร้อยต้องปวดหัวบ่อยๆ กับสองพี่น้อง เฮียกิ๊ก กับ เจ๊กั๊ก เจ้าของกิ๊กกั๊กโชวห่วย กิ๊กนั้นความจริงเป็นสาวสวย แต่ต้องอยู่ในหมู่เสือสิงห์กระทิงแรด จึงพยายามปิดบังความสวยด้วยการทำตัวเป็นทอม ใส่หมวกปิดหน้า ใส่แว่นปิดตา ชอบให้คนเรียกว่าเฮีย แต่แท้ที่จริงเป็นหญิงเต็มร้อย แต่เจ๊กั๊กชอบโชว์ความสวยงามของตัวเองให้คนอื่นเห็นจึงแต่งเต็มที่ สองพี่น้องขยันทำมาหากินเป็นที่สุด แต่ก็มีคุณธรรมมีน้ำใจกับผู้อื่น กิ๊กแอบชอบนายร้อย แต่กลัวร้อยจะรู้ว่าตัวเองชอบ วันดีคืนดีกิ๊กอยากสวยแต่งตัวเป็นหญิงออกไปช้อปปิ้ง แต่ถูกร้อยจับได้ขณะทำลับๆ ล่อๆ ร้อยเข้าใจว่าเป็นพวกจะมาวางระเบิดพลีชีพที่สถานีรถไป ร้อยตกใจกับความสวยของกิ๊ก แต่แกล้งทำเป็นเยาะเย้ยว่าไม่เห็นสวย ทำให้กิ๊กทั้งโกรธและอายมีปากเสียงกัน ตั้งแต่วันนั้นมาร้อยอยากเจอกิ๊กบ่อยๆ แต่แกล้งเข้าทางกั๊ก เลยทำให้เจ๊กั๊กคิดว่าร้อยมาชอบตัวเอง กิ๊กออกอาการหวงพี่สาวแต่ความจริงหึงร้อย กั๊กโกรธหาว่าพี่สาวจะได้ดีมาหวงไม่เข้าเรื่อง เรื่องราวทั้งหลายเกิดขึ้นที่นี่หัวลำโพง (ฮาเฮ) สเตชั่น ด้วยความสนุกสนาน จบเป็นตอนๆ แต่เนื้อหาต่อเนื่องกัน และแทรกคติธรรมของการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยจะใช้ดารารับเชิญมาร่วมแสดงในแต่ละตอนทุกสัปดาห์
มัจจุรีพักร้อน (2547/2004) มัจจุรีเป็นลูกสาวคนเดียวของท้าวมัจจุราช เจ้าแห่งนรกภูมิ มีนิสัยดื้อรั้น และชอบสร้างความปั่นป่วนให้กับเหล่าบริวาร และวิญญาณที่ตกนรกทั้งหลาย ด้วยความที่ต้องเจอแต่มนุษย์ที่ก่อกรรมทำเลว ทำให้มัจจุรีเกิดความเบื่อหน่าย และอยากขึ้นไปบนโลกมนุษย์ เพื่อที่จะเจอคนดีๆ บ้าง จึงขออนุญาต ท้าวมัจจุราชผู้เป็นพ่อ ท้าวมัจจุราชไม่กล้าขัดใจ เพราะเห็นแก่ท้าวมัจจุเรศผู้เป็นเมีย จึงจำใจอนุญาตให้ไปพร้อมทั้งให้บริวารทั้ง 4 ติดตามไปด้วยนั้นก็คือ สันทนา วอนนภา เรณู ปาริชาติ แต่มีกฏ ข้อบังคับว่า ห้ามทุกคนใช้เวทมนต์กลั่นแกล้งทำร้ายมนุษย์ นอกจากถึงเวลาคับขัน หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้น หากใครคนใดคนหนึ่งฝ่าฝืน พวกเธอจะถูกส่งกลับนรกภูมิทันที โดยไม่มีข้อแม้ มัจจุรีโพล่ขึ้นมา ในงานวันเกิดของ นำฤทธิ์ ครูหนุ่มรูปหล่อ ซึ่งเป็นที่รักของชาวบ้าน มัจจุรีพบกับนำฤทธิ์เป็น ครั้งแรกทั้งคู่ก็เกิดความประทับใจกันและกัน แต่เพราะลำใยออกมาหึงหวงนำฤทธิ์ จนเป็นเหตุให้เกิดความโกลาหล ปั่นป่วนกันทั้งงาน มัจจุรีจึงเผลอใช้เวชมนต์ออกไปพวกเธอจึงถูกส่งตัวกลับนรกภูมิทันทีตามข้อ ตกลง มัจจุรพยายามอ้อนขอกลับขึ้นไปบนโลกมนุษย์อีก แต่ไม่สำเร็จ มัจจุรีเบื่อและเซ็ง จึงเดินเล่นและบังเอิญ ผ่านห้องตัดสินขณะนั้นไม่มีใครอยู่ มีแต่ลูกโลกที่มัจจุราชใช้ส่งเธอไปยังโลกมนุษย์ เธอจึงแอบจิ้มลูกโลกเพื่อหนีขึ้นไปโลกมนุษย์อีกครั้ง เมื่อมัจจุรี มาถึงบ้านฟ้าครามก็ตามหานำฤทธ์ แต่ชาวบ้านกลับบอกว่า นำฤทธิ์ผิดคำสัญญากับพวกเด็ก ๆ ทิ้งหมู่บ้านฟ้าคราม ไปหาความสุขสบาย ที่กรุงเทพแล้ว มัจจุรีผิดหวังในตัวนำฤทธิ์มาก และสัญญากับชาวบ้านว่าจะนำตัวนำฤทธิ์กลับมาให้ได้ มัจจุรีเดินทางตามหานำฤทธิ์เพียงผู้เดียวเกิด อันตรายจนเกือบพลาดท่าเสียทีคนร้าย โชคดีที่บริวารทั้ง 4 มาช่วยไว้ทันเวลา และได้ออกตามหานำฤทธิ์ไปด้วยกัน พวกเธอมาจนถึงบ้านของนำฤทธิ์โดยมา ตามที่อยู่ในนิตยสาร เมื่อพบนำฤทธิ์ทุกคนพากันต่อว่า นวลจันทร์แม่ของนำฤทธิ์เข้ามาขวาง และเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง ว่าธุรกิจสวนสนุกของครอบครัวกำลังประสบปัญหา จึงเป็นเหตุให้นำฤทธิ์ผิดคำสัญญาต่อเด็ก ๆ และชาวฟ้าคราม มัจจุรีเห็นใจ ต้องการจะอยู่เพื่อช่วยกอบกู้สวนสนุกและ สถานการณ์ของนำฤทธิ์ จึงโกหกว่าเป็นชาวฟ้าคราม จะกลับบ้านไปไม่ได้ หากไม่ไห้พาตัวครูนำฤทธิ์กลับไป ด้วยนวลจันทร์จึงให้มัจจุรีอยู่ที่บ้านตนด้วย ส่วนบริวารทั้ง 4 ก็ถูกส่งไปทำงานกับเพื่อนบ้าน การที่มัจจุรีมา อยู่ในบ้านนำฤทธิ์ทำให้มัจจุรีได้รู้จักนิสัยใจ คอของมนุษย์แต่ละคนมากขึ้น อีกทั้งได้รับบทเรียนต่างๆ ของการอยู่บนโลกมนุษย์ซึ่งเธอก็ผ่านมันมาได้ มัจจุรีและพวกช่วยกิจการ สวนสนุกให้ดีขึ้น โดยจัดงานฉลองสวนสนุกอย่างเอิกเกริก 5 สาวออกแสดงโชว์ที่แปลกตา ทำให้ผู้ที่ มาเที่ยวชื่นชอบจนกิจการสวนสนุก ของนำฤทธิ์กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง แต่ แล้วเหตุการณ์กลับโกลาหลขึ้นอีกครั้ง เมื่อซีอิ้วทายาทของซีอุยที่ชดใช้กรรมอยู่ในนรกภูมินั้น ได้ขโมยหัวไม้เท้าของท้าวมัจจุราช แล้วหนีขึ้นมา ก่อ ความวุ่นวายบนโลกมนุษย์ เพราะแค้นที่ตนต้องตกนรกเพราะพวกเด็กๆ จึงสิงร่างคนเพื่อหลอกลักพาตัวเด็กๆ มาขังรวมกันไว้ โดยรอเวลา ถ้าหาก ครบ 66 คนเมื่อใดก็จะฆ่าพร้อมๆกันซีอิ้วเข้าสิงร่างสายฟ้า แล้วเข้าไปหลอกลักพาตัวเด็กๆ ที่มาเที่ยวสวนสนุกของนำฤทธิ์ จนกลายเป็นข่าวใหญ่โตเรื่อง ฆาตกรสวนสนุก” เมื่อข่าวแพร่สะพัด จึงทำให้สวนสนุกของนำฤทธิ์เสียชื่อและตกต่ำอีกครั้ง มัจจุรีกับบริวารจึงร่วมมือกันช่วยตำรวจ จนจับฆาตกรได้ แต่ซีอิ้วในร่างสายฟ้าใช้พลังจากหัวไม้เท้าเล่นงานมัจจุรีและบริวารจนเจ็บ หนักและหนีไปได้ ซีอิ้วไนร่างสายฟ้า ตระเวณหลอกล่อเด็กๆ จนใกล้ครบ 66 คน เมื่อมัจจุรีและบริวารหายดี จึงร่วมมือกันวางแผนปลอมตัวเพื่อล่อซีอิ้ว ทั้งคู่ใช้อิทธิฤทธิ์ต่อสู้กัน ในที่สุดซีอิ้วก็พลาดท่าหลงอุบายของ สันทนาจึงทำให้มัจจุรีได้หัวไม้เท้าของมัจจุราชคืน และแล้วเวลาของมัจจุรีก็หมดลง เธอจึงถูกมา รับตัวกลับนรก ภูมิทันที
วังน้ำวน (2547/2004) อาโป ( อลิชา ไล่สัตรูไกล ), เพียงธาร ( ธัญญาเรศ รามณรงค์ ) และ ระริน ( ภัคพร ภูวะปัจฉิม ) เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยที่เรียนโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด ทั้งสามทั้งมีความฝันเป็นของตัวเอง อาโปมีฐานะทางครอบครัวดีกว่าเพื่อน เธอฝันว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศหลังเรียนจบ ผิดกับเพียงธารที่มีฐานะยากจน เธอจึงรับหน้าที่เลี้ยงดูครอบครัวทุกอย่าง ระรินมีความฝันไม่ต่างจากเพื่อนๆ เธอใฝ่ฝันว่าอยากเป็นนางเอกละคร แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเธอทั้งสามคิดเหมือนกัน ก็คือการแอบชอบ ต้นสาย ( ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง ) ครูฝึกสอนหนุ่มหน้าตาดีที่เข้ามาฝึกสอนอยู่ที่โรงเรียน เพียงธารออกหางานพิเศษทำทุกอย่างเพื่อส่งเสียครอบครัว งานแรกคือการเป็นเซลล์ขายเครื่องสำอางค์ ซึ่งทำให้เธอได้พบกับ ทัดดาว ( ศิรินุช เพ็ชรอุไร ) จึงถูกชักชวนไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อจะได้มีรายได้ดีกว่าเดิม และอาจจะมีโอกาสก้าวสู่การเป็นนางแบบได้ แต่เมื่อระรินรู้ จึงอยากรู้จักทัดดาวด้วย เพื่อหวังว่าตัวเองจะได้เป็นดาราอย่างที่ฝันไว้ วันหนึ่งทั้งสามสาวแอบโดดเรียนไปเล่นน้ำที่แม่น้ำ แต่อาโปว่ายน้ำไม่แข็งจึงถูกดูดลงไปในใต้น้ำซึ่งเป็นน้ำวน ต้นสายเห็นเข้าจึงกระโดดลงไปช่วยอาโปไว้ทัน ทำให้อาโปรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเขามาก ต้นสายมาลาอาโป เพื่อกลับไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ทั้งสองจึงเผยความรู้สึกในใจต่อกัน วัน หนึ่งขณะที่ต้นสายกำลังเดินทางกลับกรุงเทพฯ ระหว่างทางได้ช่วยระรินที่กำลังถูกพ่อเลี้ยงปลุกปล้ำ ระรินจึงขอเข้ากรุงเทพฯ กับต้นสาย เพื่อไปทำงานกับทัดดาว แต่พอถึงกรุงเทพฯ ระรินกลับติดต่อกับทัดดาวไม่ได้ ต้นสายจึงให้ระรินพักกับตนไปก่อน จนทำให้ทั้งคู่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน อาโปและเพียงธาร รู้สึกผิดหวังมากเพราะคิดว่าต้นสายเป็นคนพาระรินหนี หลังสอบปลายภาค เพียงธารตัดสินใจมาทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งเสียครอบครัว อาโปจึงเสนอให้ไปอยู่บ้านป้าพร้อมกับตัวเอง อาโปไปสมัครเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวไปเรียนต่อ เลยทำให้เธอได้พบกับ กลางชล ( รัฐศาสตร์ กรสูต ) ครูสอนภาษาเยอรมัน ส่วนเพียงธารได้ไปทำงานที่ร้านดอกไม้ คุณปอง ( ณหทัย พิจิตรา ) อดีตดาราที่เคยเดินทางผิด เธอจึงคอยตักเตือนเพียงธารอยู่เสมอๆ เพราะกลัวว่าเพียงธารจะมีชีวิตที่ซ้ำรอยแบบเธอ ยิ่งเมื่อได้รู้จักกับ สินธู (นพชัย มัททวีวงศ์ ) นักธุรกิจหนุ่มเพลย์บอย คุณปองก็ยิ่งเป็นห่วงเธอมากขึ้น ระรินถูกสินธู ชักชวนให้เล่นหนังวีซีดี เพราะสนใจในตัวระริน โดยที่ระรินก็เล่นด้วย สินธูอาสาเลี้ยงดูระรินโดยซื้อบ้านให้อยู่ ระรินจึงหนีจากต้นสายมาอยู่กับสินธู ทางด้านเพียงธารเป็นหญิงสาวที่สินธูหวังครอบครองเป็นเจ้าของ แต่มีคุณปองคอยขัดขวาง กลางชลมีโอกาสได้ใกล้ชิดเพียงธารมากขึ้น เมื่อเพียงธารย้ายออกมาอยู่อพาร์ทเมนท์ตรงข้ามกับบ้านของเขา ทำให้กลางชลเริ่มหวั่นไหว จึงขอหมั้นกับอาโปแล้วชวนกันไปอยู่ที่เยอรมันด้วยกัน แต่อาโปปฏิเสธเพราะยังสนุกกับงานที่ทำอยู่ อาโปนำเงินทั้งหมดที่มีไปซื้อรถ เป็นจังหวะที่เพียงธารเดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะหาเงินไปรักษาพ่อที่ป่วย จึงมาขอยืมอาโป แต่อาโปไม่มี เพียงธารหมดหนทางจึงตัดสินใจขอยืมสินธู สินธูจึงสั่งให้ลูกน้องนำเงินไปให้ทันที เพียงธารต้องการหาเงินให้ให้สินธูโดยเร็ว จึงทำงานเพิ่มมากขึ้น กลางชลแนะนำให้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทของเพื่อน อาโปก็ไปสมัครงานนี้เช่นกัน แต่ปรากฏว่าเพียงธารถูกเลือกแทน เพียงธารนำเงินไปคืนสินธู แต่เขาไม่รับและขอแลกกับการคบกับเพียงธารแทน แต่เพียงธารยังไม่ยอมรับ กลางชลใกล้ชิดกับเพียงธารมากขึ้น โหน่ง ( วสันต์ อุตตมะโยธิน ) พยายามเตือนอาโป แต่อาโปไม่เชื่อว่าเพื่อนจะทำร้ายเพื่อนได้ ระรินเริ่มออกอาการหึงหวงสินธูมากขึ้นจนเสียการเสียงงาน สินธูวางแผนเปิดกล้องภาพยนตร์ 3 เรื่องพร้อมกัน โดยมี เพียงธาร, อาโป, ระริน นำแสดงในแต่ละเรื่อง โดยวางกลางชลแสดงคู่กับอาโป ระรินติดต่ออาโปให้สินธู แต่หลอกว่ามีฉากวับๆ แวมๆ อาโปจึงปฏิเสธ แต่มารู้ทีหลังวาเป็นหนังชีวิตธรรมดาจึงตอบรับ พออาโปรู้ว่ากลางชลถอนตัวจึงผิดหวังในที่สุดจึงตัดสินใจไม่รับเล่น และก็ยังไม่อยากไปเรียนต่อ กลางชลจึงแนะนำให้อาโปไปเรียนการแสดง จนได้รู้จักกับ แจ็ค ผู้กำกับที่กำลังหานางเอกใหม่อยู่ อาโปได้เจอกับต้นสายอีกครั้ง อาโปจึงแนะนำให้ต้นสายไปเป็นแสตนด์อินในละครที่เธอเล่น อาโปประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงมากกว่าเพื่อนทั้งสอง สินธูคิดจะสร้างหนังใหญ่ เรื่อง วังน้ำวน โดย พัฒน์ ผู้กำกับต้องการ อาโป มาเล่น เพราะอาโปกำลังได้รับความนิยม แต่สินธูต้องการเพียงธาร และ ระริน เล่นเรื่องนี้ เพราะทั้งคู่เป็นนักแสดงในสังกัดของเขา พัฒน์เลือกอาโปกับระริน เพราะบทเหมาะกว่า เพียงธารไปหาคุณปอง แต่พบว่าคุณปองฆ่าตัวตาย เพราะเมียหลวงมาอาละวาดที่ร้าน เพียงธารเสียใจมาก รวมทั้งเห็นอาโปและกลางชลหวานชื่นกัน เพียงธารหมดหนทางจึงตัดสินใจไปหาสินธู และวันนั้นเธอก็ค้างที่คอนโดสินธูอย่างเต็มใจ จนเพียงธารรู้ว่าตัวเองไม่ได้เล่นหนัง วังน้ำวน จึงขอสินธูเปลี่ยนตัวให้เธอได้เล่นเรื่องนี้ เพื่อทำให้ความฝันของคุณปองให้เป็นจริง พัฒน์เลือก อาโป กับ เพียงธาร โดยตัดระรินออกจากหนังเรื่องนี้ ทำให้ระรินเสียใจมาก บังเอิญพระเอกของเรื่องนี้ถอนตัว สินธูจึงไปขอร้องให้กลางชลมาแสดงแทน กลางชลตอบตกลง เพราะจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเพียงธาร ทางด้านอาโปจึงเริ่มไม่ไว้ใจเพียงธารมากขึ้นและเริ่มหึงหวงกลางชล เมื่อเขาเริ่มเปลี่ยนไป ระรินมาอาละวาดกับเพียงธารที่กองถ่ายเรื่องของสินธู กลางชลออกหน้าปกป้องเพียงธาร อาโปน้อยใจกลางชลที่เริ่มตีตัวออกห่าง แจ็ค มาขอให้อาโปกับเพียงธารไปเดินแบบงานแฟชั่นการกุศล ระรินจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองได้ไปเดินแฟชั่นงานนี้ด้วย ในงานแฟชั่น กลางชลตัดสินใจบอกเลิกกับอาโป เพียงธาร, อาโป, ระริน ต้องเผชิญหน้ากันในห้องแต่งตัว ทั้งสามทะเลาะกัน เมื่อออกมาหน้าเวทีจึงแกล้งเดินชน แล้วเหยียบเท้ากัน เลยเถิดไปถึงขั้นตบตีกันด้านหลังเวที สินธูกับกลางชลตามมาช่วย แต่ก็เกิดชกต่อยกันเองเพราะความหึงหวง สินธูดึงเพียงธารไปเคลียร์ปัญหาที่ค้างคากันอยู่ ส่วนระรินถึงกับขาดสติจนต้องเข้าโรงพยาบาล อาโปไม่สามารถเข้าฉากกับเพียงธารและกลางชล ได้อย่างสนิทใจอีกต่อไป หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ความรักของเพื่อนทั้งสาม ขาดสะบั้นลง เมื่อความรักกลายเป็นวังวน ที่พัวพันรอบตัวพวกเธอ จนไม่สามารถสะบัดหลุดไปได้ จุดจบความรักของทั้งสามจะเป็นอย่างไร พวกเธอจะหาทางออกจาก วังน้ำวน แห่งนี้ได้หรือไม่ หรือยังคงหลงอยู่ในวังวนต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด